สำหรับแฟนบอลทั่วไปนั้น มันไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าพวกเขาจะไม่รู้จัก โอโมเนีย นิโคเซีย คู่แข่งของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก เพราะพวกเขามาจากลีกของไซปรัสซึ่งไม่ใช่ลีกที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากนัก โดยสาเหตุที่พวกเขาได้เข้ามาเล่น ยูโรปา ลีก ในซีซั่นนี้ก็เพราะฤดูกาลก่อนคว้าแชมป์ ไซปรัส คัพ หรือเทียบเท่ากับ เอฟเอ คัพ ของ อังกฤษ ไปครองได้
นีล เลนน่อน กุนซือของพวกเขาอาจจะเป็นสิ่งที่คุ้นหูแฟนบอลทั่วไปมากที่สุด เพราะนี่คือกุนซือที่เคยทำงานให้กับ เซลติก อยู่หลายปี รวมถึงเคยเล่นให้ทีมอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ มาแล้ว
อย่างไรก็ตาม ศึก ยูโรปา ลีก ในฤดูกาลนี้ก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าสำหรับ แบรนดอน บาร์เกอร์ ปีกชาวอังกฤษของ นิโคเซีย เหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้เขาก็คงไม่คิดมาก่อนว่าจะมีโอกาสได้เจอกับทีมที่ตัวเองตามเชียร์มาตั้งแต่ยังเด็ก รวมถึงเป็นทีมที่เคยเป็นคู่แข่งของเขาในระดับเยาวชนด้วย
ย้อนความหลังกันสักหน่อยว่า บาร์เกอร์ เป็นคนเมืองแมนเชสเตอร์มาตั้งแต่เกิด ซึ่งนั่นก็ทำให้ในวัยเด็กเขาตามเชียร์ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปด้วย แถมยังเคยไปเข้าอะคาเดมี่ของ "ปีศาจแดง" ในตอนที่อายุ 7 ขวบด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่ตอนนั้นฐานที่ตั้งของ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ห่างจากบ้านของเขา เจ้าตัวเลยไปซบศูนย์พัฒนาเยาวชนของ แมนฯ ซิตี้ ในอีกราว 1 ปีต่อมา
แข้งวัย 25 ปี เปิดใจว่า "ผมเคยอยู่กับ ซิตี้ เป็นเวลา 16 ปี แต่ผมน่ะเป็นสาวก เร้ดส์ มาตั้งแต่เด็กแล้ว ผมเคยไปที่ ยูไนเต็ด ตอนที่อายุ 7 ขวบด้วย แต่ที่ตั้งของพวกเขามันค่อนข้างอยู่ห่างจากบ้านของผมน่ะนะ เราเลยเลือกไปอยู่กับ ซิตี้ และนั่นแหละที่ทำให้หลายอย่างมันเปลี่ยนไป หลังจากได้อยู่กับที่นั่นแล้วน่ะผมก็ตกหลุมรัก แมนฯ ซิตี้ เพิ่มอีกทีม ดังนั้นเวลาที่พวกเขาเจอกันเองผมก็เลยพยายามที่จะไม่เชียร์ใครทั้งนั้น"
สมัยอยู่กับ แมนฯ ซิตี้ นั้น บาร์เกอร์ ถือเป็นนักเตะดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองมากคนหนึ่ง เขาถึงขั้นเคยได้รับรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของ แมนฯ ซิตี้ จากการเลือกของเพื่อนร่วมอะคาเดมี่ด้วยกันเองประจำฤดูกาล 2013-14, ได้ขึ้นไปซ้อมกับทีมชุดใหญ่ของ แมนฯ ซิตี้ ในยุคของ มานูเอล เปเยกรีนี่, ได้รับสัญญาแบบนักเตะอาชีพ, มีชื่อเป็นตัวสำรองให้ทีมชุดใหญ่ในบางนัด และได้ประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 5 นัดที่ แมนฯ ซิตี้ แพ้ เชลซี 1-5 ด้วย
ถึงกระนั้น ความฝันที่จะได้เป็นแกนหลักให้ทีมสีฟ้าแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ของเขาก็ดับวูบในตอนที่ โจเซป กวาร์ดิโอล่า เข้ามาเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ เพราะว่า กวาร์ดิโอล่า มองว่าเขาเป็นส่วนเกินจนทำให้ บาร์เกอร์ โดนปล่อยไปเล่นแบบยืมตัวกับหลายทีม อย่างเช่น เอ็นเอซี เบรด้า, ฮิเบอร์เนี่ยน และ เปรสตัน นอร์ธ เอ็นด์ ก่อนที่เขาจะต้องบอกลาทีมแบบถาวรในปี 2019 โดยที่ เรนเจอร์ส คือต้นสังกัดต่อมาของเขา แต่ในปี 2022 เจ้าตัวก็แยกทางกับ เรนเจอร์ส ด้วยความยินยอมของทั้ง 2 ฝ่ายแล้วไปอยู่กับ เร้ดดิ้ง ด้วยสัญญาระยะสั้น จากนั้นถึงค่อยมาซบ นิโคเซีย เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
"มันเป็นสถานการณ์ที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือนิดๆ ก็ว่าได้ ผมเคยเล่นให้ทีมเยาวชนทุกรุ่นของ แมนฯ ซิตี้ และค่อนข้างมีความมั่นใจว่าจะขึ้นไปเล่นให้ทีมชุดใหญ่ได้ ตอนยุคของ เปเยกรีนี่ น่ะผมได้ซ้อมกับทีมชุดใหญ่ทุกวันด้วย และรับมือกับเรื่องต่างๆ ได้ดี"
"ผมมีชื่อเป็นตัวสำรองให้ทีมสัก 25 นัดได้มั้ง ดังนั้นมันก็พอจะสื่อได้ว่าผมทำผลงานได้ดีในระดับหนึ่ง แต่พอมีการเปลี่ยนตัวกุนซือแล้วน่ะผมก็ไม่เหลือที่ในทีมอีกต่อไป แน่นอนว่าคุณคงจะไปโกรธกับเรื่องแบบนั้นไม่ได้ แต่ผมก็มีสภาพเหมือนกับโดนกับดักของการยืมตัวแทนที่จะได้รับการปล่อยออกจากทีมในทันที (สื่อว่าถ้า แมนฯ ซิตี้ มองว่าตนไม่ดีพอก็น่าจะรีบขายตนไปเลย ไม่ใช่ยังปล่อยไปเล่นแบบยืมตัวก่อนในช่วงแรกๆ)"
สำหรับ บาร์เกอร์ ที่ลืมตาดูโลกเมื่อปี 1996 แล้วนั้น มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จะเป็นหนึ่งในนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด คนโปรดของเขา หลังจากภาคแรกของ โรนัลโด้ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มต้นเมื่อปี 2003 และมันก็แน่นอนว่าเขาตื่นเต้นที่จะได้เจอกับไอดอลของตัวเองสุดๆ
"โอกาสที่จะได้อยู่ในสนามเดียวกับเหล่านักเตะระดับนี้มันเป็นเรื่องที่วิเศษอยู่เสมอ โรนัลโด้ เป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลสำหรับผม ดังนั้นมันเลยจะเป็นเกมที่พิเศษสำหรับผมในฐานะแฟนบอล ยูไนเต็ด"
ถึงกระนั้น ด้วยความเป็นมืออาชีพ บาร์เกอร์ เลยตั้งเป้าว่าจะเอาชนะทีมรักของตัวเองให้ได้ ถ้าเขาได้รับโอกาสลงสนาม "นี่เป็นเกมฟุตบอล ผมเชื่อว่าทุกคนจะมุ่งมั่นอย่างเต็มที่และเล่นตามแบบที่เราทำกันได้ตลอดช่วงที่ผ่านมา"
"มันคงจะเป็นเรื่องที่พิเศษอยู่นะถ้าผมเอาชนะพวกเขาได้ เพราะในบรรดาคนที่เป็นเพื่อนของผมน่ะมีคนที่เป็นสาวกของ ซิตี้ กับ ยูไนเต็ด อย่างละครึ่ง ไม่มีใครคาดหวังหรอกว่าเราจะทำอะไรพวกเขาได้ ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่พวกเขาจะคิดแบบนั้น เพราะนี่คือ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่เราจะเล่นให้สนุกกับเกมนี้"
- เด็กเกร็ดบอล -