ทีมชุดเดียวกัน แต่ผลลัพธ์ต่างกัน...
ในที่สุด แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เรียกศรัทธากลับคืนมาจากแฟนบอลได้สำเร็จเมื่อเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เรอัล เบติส และพิชิตทีมจาก ลา ลีกา ไปได้หายห่วง 4-1 ในเกม ยูโรปาลีก รอบ 16 ทีมนัดแรกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 มี.ค. หลังจากเกมก่อนหน้านี้ในศึก พรีเมียร์ลีก พวกเขาบุกไปโดน ลิเวอร์พูล ไล่ต้อน 7-0
จากผลลัพธ์ดังกล่าว ทำให้ ผีแดง มีภาษีที่จะเข้ารอบต่อไปเหนือกว่าทีมเมืองกระทิงดุมากพอสมควรจากการระเบิดฟอร์สมกับที่เป็นเต็งแชมป์ของถ้วยใบนี้ และที่สำคัญมันลดความกดดันลงไปได้ไม่น้อยหลังจากพวกเขามีเกมที่เลวร้ายเมื่อสุดสัปดาห์
1. ผีแดง ส่งทีมชุดอัปยศรับแขก
แม้จะประสบกับความอับอายขายหน้าในเกมแดงเดือดนัดล่าสุดที่ แอนฟิลด์ แต่ เอริค เทน ฮาก กุนซือทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ทำเซอร์ไพรส์ส่งทีมชุดเดิมที่บุกไปแพ้ ลิเวอร์พูล เละเทะลงบู๊อีกนัด
เท่ากับว่าดาวดังอย่าง กาเซมีโร่ และ ราฟาแอล วาราน ที่ถูกสื่อลือว่ามีปัญหาบาดเจ็บรบกวนต่างก็ฟิตเต็มสูบ ขณะที่ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ กับ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ไม่มีส่วนร่วมอย่างที่นายใหญ่ดัตช์ระบุเอาไว้ก่อนแล้ว
ต่อการส่งทีมชุดเดิมลงสนาม มีการเปิดเผยว่าถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้งานนักเตะ 11 คนแรกลงเล่นสองนัดต่อเนื่องกัน
2. เบติส ปรับทัพสี่ตำแหน่ง
มานูเอล เปเยกรินี่ กุนซือทีม เรอัล เบติส โรเตชั่นทีมสี่รายจากเกมลีกกระทิงดุนัดเปิดบ้านเสมอกับ เรอัล มาดริด 0-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ในจำนวนนี้ อับเนอร์ วินิซิอุส , หลุยส์ เฮนรีเก้ , กัวฆิน กัปตันจอมเก๋าวัย 41 ปี และ ฆวนมี่ ได้กลับคืนสู่ทีมแทนที่ ฆวน มิรันด้า , ไอตอร์ รูอิบัล ,โรดรี้ และ บอร์ฆา อิเกลเซียส
อย่างไรก็ดี ทีมจาก ลา ลีกา ปราศจาก นาบิล เฟคีร์ กองกลางที่เจ็บยาวไปจนจบซีซั่นก่อนแล้ว ขณะที่ เซร์คิโอ กานาเลส คีย์แมนคนสำคัญหายเจ็บมีชื่อนั่งอยู่ข้างสนาม
3. เจ้าบ้านใช้โอกาสเปลือง
ถือเป็นการออกสตาร์ตที่ยอดเยี่ยมสำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อใช้เวลาเพียง 6 นาทีก็สอยตาข่ายอาคันตุกะได้จากฝีเท้าของ มาร์คัส แรชฟอร์ด
ถึงขณะนี้ กองหน้าผิวสีจึงกระทุ้งประตูในซีซั่นนี้เป็นลูกที่ 26 แล้วจากทุกรายการ และรั้งอันดับสามดาวซัลโวในห้าลีกใหญ่ของยุโรปรองจาก เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ (33 ประตู) กับ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ (30 ประตู) เท่านั้น
ขณะเดียวกัน ผีแดง ออกอาการมั่นใจมากขึ้นตามระเบียบ และมีโอกาสเพิ่มสกอร์นับครั้งไม่ถ้วน แต่ยิงทิ้งขว้างกันไปเองบ้าง และถูก เคลาดิโอ บราโว นายทวารทีมเยือนปฏิเสธบ้าง
จนในที่สุด เบติส มาตีเสมอได้ในนาทีที่ 32 จากโอกาสส่งบอลเข้ากรอบหนแรกของพวกเขาโดย อโยเซ่ เปเรซ กองหน้าสแปนิชที่ย้ายมาจาก เลสเตอร์ แบบยืมตัวกระทุ้งผ่าน ดาบิด เด เคอา ได้สำเร็จ และนับจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ดูจะช็อตไปพักใหญ่ หาโอกาสทำเสียวแทบไม่ได้อีกเลยก่อนที่เกมในครึ่งแรกจะยุติลงโดยทีมเจ้าบ้านเหนือกว่าทุกอย่างทั้งการครองบอล 56:44% และได้ยิงมากถึง 9:4 ครั้ง และส่งบอลเข้ากรอบ 4:1 ครั้ง แต่ทำได้แค่เสมอกับทีมเยือน 1-1
4. อันโตนี่ ตัวตึงฟุตบอลถ้วย
กลับเข้าครึ่งหลังยังเป็นหนังม้วนเดิมเมื่อ ผีแดง ได้ประตูเร็วฉีกนำอีกหนในนาทีที่ 52 จากลูกยิงปั่นเข้าเสาไกลของ อันโตนี่ ปีกทีมชาติ บราซิล ซึ่งเป็นประตูที่ 7 ของเขาในซีซั่นนี้ และถือเป็นประตูสำคัญที่ส่งผลต่อโมเมนตัมของเกมอย่างแท้จริง
จาก 7 ประตูของสตาร์แซมบ้าส่งผลให้เขาเป็นราชาฟุตบอลถ้วยไปแล้วเนื่องจาก 4 ประตูหลังเกิดขึ้นในเกมฟุตบอลถ้วยล้วนๆอันรวมถึงนัดชนะ บาร์เซโลน่า ในรอบก่อนหน้านี้ด้วย
อันที่จริง อันโตนี่ น่าจะบวกสกอร์เพิ่มให้ตัวเองได้ด้วยซ้ำในช่วงสิบนาทีสุดท้ายจากจังหวะที่ เวาท์ เว็กฮอร์ส จ่ายให้หลุดไปสับไก แต่โชคร้ายที่ บราโว่ ปัดได้อย่างเฉียดฉิว
5. กัปตัน บรูโน่ กู้ชื่อ
หลังจากขึ้นนำอีกหนไม่นาน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มาได้ประตูเพิ่มให้อุ่นใจมากขึ้นเป็นกองจากการโขกลูกเตะมุมตุงตาข่ายของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ในนาทีที่ 58 ที่พาทีมเจ้าบ้านนำห่างเป็น 3-1
แม้จะโดนโจมตีอย่างหนักในเกมแพ้ ลิเวอร์พูล ยับ แต่กัปตันทีมชาวเมืองฝอยทองไม่คิดย่อท้อ และเล่นเกมนี้ด้วยความทุ่มเทตั้งแต่วินาทีแรกหมายเอาชนะใจแฟนบอลกลับมาอีกหนหลังมีการจัดผลโหวตจากกองเชียร์ เร้ด อาร์มี่ ออกมาว่าต้องการให้ทีมปลดเขาออกจากบทบาทกัปตัน
กระนั้นก็ดี จากความดีความชอบในเกมนี้ของสตาร์ทีมชาติ โปรตุเกส เชื่อเหลือเกินว่าสาวก ผีแดง ที่ออกเสียงโหวตต่อ ดิ เอ็กซ์เพรส สื่อเมืองผู้ดีน่าจะพร้อมมองข้ามเกมแดงเดือดไป และให้การสับสนุนพ่อค้าแข้งวัย 28 ปีดังเดิมเหมือนช่วงที่เขาระเบิดฟอร์มได้อย่างสุดยอด และเป็นหัวใจสำคัญของทีม
ยิ่งไปกว่านั้น ในที่สุดช่วงแปดนาทีสุดท้าย เว็กฮอร์สต์ ก็มากดเม็ดของสองเขากับ แมนฯ ยูไนเต็ด จนได้ และเป็นประตูแรกใน โรงละครแห่งความฝัน ด้วยหลังย้ายมาจาก เบิร์นลีย์ แบบยืมตัวในการลงเล่นให้เป็นตัวจริงให้ ผีแดง เป็นเกมที่ 15 ติดต่อกัน
และจะว่าไป เกมชนะ เบติส ถือเป็นเกมที่ดีที่สุดของกองหน้าทีมชาติ ฮอลแลนด์ ในสีเสื้อ แมนฯ ยูไนเต็ด เลยก็ว่าได้เนื่องจากดาวยิงร่างยักษ์มีโอกาสกระทุ้งประตูในเกมนี้หลายหน แต่เหมือนโชคไม่เป็นใจ อีกทั้งยังมีบทบาทกับเกมสูงด้วยจนในที่สุดเขาก็ได้รางวัลตอบแทนความทุ่มเท และเพียรพยายาม
(ปล. จบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ครองบอลได้มากกว่า 57:45% และได้ส่องยิงรวมทั้งสิ้น 25:6 ครั้ง ตลอดจนส่งบอลเข้ากรอบได้ 13:2 ครั้ง)