การป้องกันแชมป์ของเลเวอร์คูเซ่น..

การป้องกันแชมป์ของเลเวอร์คูเซ่น..
ฟุตบอลบุนเดสลีกาเยอรมันจะเปิดฉากขึ้นในคืนนี้แล้วนะครับ

ฤดูกาลที่แล้วเราได้เห็นความยอดเยี่ยมของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่ไม่เพียงจะสร้างประวัติของสโมสรด้วยการได้แชมป์ลีกเป็นครั้งแรกเท่านั้นแต่ยังสร้างผลงานระดับที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนในเยอรมันนั่นคือการจบฤดูกาลแบบไร้พ่าย

เตะ 34 เกมไม่แพ้ใครเลย กระทั่งทีมอย่าง บาเยิร์น มิวนิค โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค หรือ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในวันรุ่ง ๆ ก็ยังไม่เคยทำได้

มันจึงเป็นแชมป์อย่างมีสไตล์จริง ๆ สำหรับทีมห้างขายยา คือไม่เพียงสิ้นสุดการรอคอยอันยาวนานและฉายา "Neverkusen" ที่ผู้คนมอบให้เท่านั้น แต่ยังทำมันอย่างเขย่าวงการ อาละวาดจนทุกอย่างถูกกวาดราบเป็นหน้ากลอง

หลายคนยังจำได้ดีถึงการเจ็บหนัก ๆ ของเลเวอร์คูเซ่นโดยเฉพาะฤดูกาล 1999/2000 กับ 2001/02 ที่บอกได้คำเดียวว่าน่าเห็นใจกองเชียร์ห้างยาเหลือเกิน ตำแหน่งแชมป์อยู่ตรงหน้านี้แล้วแต่กลับทำมันหลุดมือ

ปี 2000 บุกไปเยือนอุนเตอร์ฮัคคิงก์ในเกมปิดฤดูกาล เลเวอร์คูเซ่นของ คริสโตฟ ดอย์ม ต้องการเพียงผลเสมอเท่านั้นก็จะการันตีโล่แชมป์บุนเดสลีกาสมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

หรือต่อให้ผิดพลาดเอาชนะเจ้าถิ่นไม่ได้ ผลเสมอหรือแพ้ก็ยังเพียงพอต่อการเป็นแชมป์ถ้าหาก บาเยิร์น มิวนิค พลาดเก็บสามคะแนนในเกมสุดท้าย

แต่ผลที่ออกมาก็เหมือนฟ้าเล่นตลก เลเวอร์คูเซ่นแพ้ ส่วนบาเยิร์นชนะ แชมป์จึงตกเป็นของทีมเสือใต้ท่ามกลางน้ำตาของฝั่งเลเวอร์ฯ

เช่นเดียวกับปี 2002 เลเวอร์คูเซ่นของ เคล้าส์ ท็อปป์โมลเลอร์ นำอันดับสองอยู่ 5 คะแนนเมื่อเข้าสู่ 3 เกมสุดท้าย ทั้งยังผ่านเข้าชิงเดเอฟเบ โพคาล และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ผลลัพธ์ก็เกินจะเชื่อหรือจินตนาการไปได้ถึง ทีมความหวังแห่งชาวเมืองเลเวอร์คูเซ่นจบฤดูกาลนั้นด้วยการเป็นทริปเปิลรองแชมป์ ได้รองแชมป์บุนเดสลีกา รองแชมป์เดเอฟเบ โพคาล และรองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ฉายา Neverkusen เกิดขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น ชิงเมื่อไรก็เป็นได้แค่พระรอง ก่อนเข้าสู่ฤดูกาลที่แล้วพวกเขาคือทีมที่ได้รองแชมป์มากที่สุดแล้วในบรรดาทีมที่ยังไม่เคยเป็นแชมป์บุนเดสลีกาด้วยกัน นั่นคือ 5 สมัย

ก่อนเข้าสู่ซีซั่น 2023/24 เลเวอร์คูเซ่นมีเพียงแชมป์เดเอฟเบ โพคาล ปี 1993 กับแชมป์ยูฟ่า คัพ ปี 1988 สองรายการเท่านั้นในตู้โชว์ของสโมสร เปรียบเทียบกับแชมป์น้อยใหญ่ของทีมอื่น ๆ ร่วมลีกเมืองเบียร์ก็อยู่ในระดับมินิ เป็นแค่เด็กน้อยเท่านั้น

แต่การเข้ามาของ ชาบี อลอนโซ่ เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2022 คือจุดพลิกผันสำคัญในหน้าประวัติศาสตร์ของสโมสร อดีตกองกลางทีมชาติสเปนปรับแต่งพาทีมห้างขายยาเดินหน้าอย่างแข็งแรง จากทีมที่จมอยู่ในพื้นที่สีแดงยุค เคราร์โด้ เซวาเน่ ขึ้นไปคว้าตั๋วลุยถ้วยยุโรป

แล้วในฤดูกาลที่ได้ทำทีมเต็มตัวก็.. บูม ลุยแหลกเข้าป้ายเป็นแชมป์อย่างไร้เทียมทานเกือบจะเป็นทีมแรกในโลกที่เป็นทริปเปิลแชมป์แบบไม่แพ้ใครทุกถ้วยทุกรายการด้วยซ้ำ

เพียงความปราชัยต่อ อตาลันต้า ในนัดชิงยูฟ่า ยูโรปา ลีก เท่านั้นที่ทำให้เลเวอร์คูเซ่น "แพ้เป็น" เมื่อฤดูกาลก่อน

ซีซั่นนี้ เลเวอร์คูเซ่น จะลงแข่งในสถานะที่พวกเขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน นั่นคือการเป็นผู้ถูกไล่ล่าบ้าง

มันคือประสบการณ์แรกของพวกเขา น่าสนใจไม่น้อยว่าจะรับมือกับมันได้ดีเพียงใด และการตัดสินใจอยู่ต่อของ อลอนโซ่ ในช่วงปลายฤดูกาลที่แล้วที่เป็นข่าวหนัก ๆ กับลิเวอร์พูลทีมเก่าจะได้ผลออกมาอย่างไร

ในแง่ของขุมกำลัง เลเวอร์คูเซ่นไม่เสียตัวหลักออกไปเลย ทุกคนยังอยู่กับทีมได้ทั้งหมด

นี่คือเรื่องที่น่าชื่นชมสำหรับการทำงานของสโมสร มันเป็นเรื่องยากนะครับที่คุณจะรั้งนักเตะเอาไว้ได้ครบจากปากเหยี่ยวปากกาทั้งหลายที่จ้องนักเตะของคุณตาเป็นมันจากผลงานที่พวกเขาเหล่านั้นทำเอาไว้

ฟลอเรียน เวียร์ตซ์, อเล็กซ์ กริมัลโด้, เฌเรมี่ ฟริมปง, โรเบิร์ต อันดริช, เอเซเกล ปาลาซิออส, พาทริค ชิค

วิคเตอร์ โบนิเฟซ, เนธาน เทลล่า, อามีน อัดลี่, โจนาธาน ทาห์, เอ๊ดมอนด์ แท็ปโซบา, โอดิลอน คอสซูนู, ปิเอโร่ ฮินคาปีเอ รวมไปถึง กรานิต ชากา และ ลูคัส ฮราเด็คกี้ รุ่นพี่ของทีม

ทุกคนที่ว่ามานี้ ยังอยู่กับทีมทั้งหมด มีเพียง โจซิป สตานิซิช ที่กลับไป บาเยิร์น มิวนิค หลังหมดสัญญายืมตัว กับ อดัม ฮโลเซ็ค กองหน้าชาวเช็กเกียที่ย้ายไปฮอฟเฟ่นไฮม์เท่านั้นที่ไม่ได้อยู่กับทีมต่อ

ผลงานชิ้นนี้ต้องยกนิ้วให้ ไซม่อน โรลเฟส ผู้อำนวยการกีฬาแห่งถิ่นไบ อารีน่า จริง ๆ มันยิ่งทำให้งานของ ชาบี อลอนโซ่ มั่นคงขึ้น เพราะสามารถต่อยอดได้ต่อทันทีจากนักเตะหลักที่เป็นแกน

การรักษานักเตะตัวหลัก ๆ เอาไว้กับทีมต่อไปได้ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความจริงจังของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น และการทำให้นักเตะมีแรงผลักดันร่วมกันถึงภารกิจบางอย่าง

ต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับที่จะทำได้ ถ้าคุณไม่ใช่ทีมระดับบนสุดอย่าง เรอัล มาดริด บาเยิร์น มิวนิค หรือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่แทบไม่เคยต้องกังวลเรื่องการเสียนักเตะ แต่เลเวอร์คูเซ่นสามารถทำได้ อย่างน้อยก็จนถึงเวลานี้ วันที่เหลืออีกไม่ถึง 10 วันตลาดซื้อขายผู้เล่นช่วงฤดูร้อนก็จะปิดตัวลง

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ชุดแชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัยซ้อน (2010/11 กับ 2011/12) ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ก็เสีย นูริ ซาฮิน กับ เดเด้ ในปีแรก และเสีย ลูคัส บาร์ริออส กับ ชินจิ คางาวะ ในปีที่สอง รวมทั้งยังเสีย มาริโอ เกิตเซ่อ ความหวังของทีมในปีต่อมา

หรืออย่างชาลเก้ 04 ในฤดูกาล 2009/10 ที่ลุ้นแชมป์กับบาเยิร์น มิวนิค แล้วแพ้แค่ 5 แต้มก็เสียผู้เล่นสำคัญค่อนทีมหลังจบซีซั่นนั้นทั้ง เครัลด์ อซาโมอาห์, เควิน คูรานี่, เซ โรแบร์โต้, ไฮโค เวสเตอร์มันน์, มาร์เซโล่ บอร์ดอน และ เลวิส โฮลบี้ จนกลายเป็นทีมหนีตกชั้นในฤดูกาลต่อมาไปเลย

เลเวอร์คูเซ่นยังเก็บนักเตะตัวหลักได้ทั้งหมดอย่างนี้ย่อมเป็นเรื่องที่ดี แต่น่าคิดอยู่เหมือนกันว่าพวกเขาต้องแลกกับอะไรบ้างโดยเฉพาะการปรับปรุงรายละเอียดของสัญญาที่มีอยู่ของนักเตะแต่ละคนให้สามารถสู้กับข้อเสนอเย้ายวนจากทีมเงินถุงเงินถังอื่น ๆ ได้

ไม่เพียงเท่านั้น มานูเอล บองเค่อ กับ ฟิลิปป์ เคสส์เลอร์ นักข่าวจาก Tz หรือหนังสือพิมพ์ ทาเกสไซตุ้ง มีรายงานว่าทาง ไบเออร์กรุ๊ป ที่เป็นเจ้าของสโมสรเลเวอร์คูเซ่นอยากให้มีการขายนักเตะบางคนออกไปบ้างเนื่องจากราคาพุ่งเกินมูลค่าตลาดไปไกลแล้ว

เป็นมุมมองในเชิงธุรกิจ ข่าวบอกว่า โจนาธาน ทาห์ คือเป้าหมายที่เลเวอร์คูเซ่นอยากจะขายออกไปเพราะได้ค่าตัวระดับ 25-30 ล้านยูโรจากค่าฉีกสัญญาแค่ 18 ล้านยูโรเมื่อฤดูกาลก่อน ซึ่ง แฟร์นานโด คาร์โร่ ซีอีโอของไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่รับผิดชอบภารกิจนี้คงต้องหาข้อสรุปและทำความเข้าใจเรื่องนโยบายให้ชัดเจนกับ โรลเฟส และ อลอนโซ่ ด้วย

นี่คือเรื่องที่ต้องรอเวลามอบคำตอบให้กับเรา การเดินเกมตรงนี้ของเลเวอร์คูเซ่นมีความเสี่ยงมากน้อยเพียงใด กระโจนลงไปเล่นกับความอันตรายเรื่องนี้แค่ไหน

โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คือทีมล่าสุดที่ป้องกันแชมป์บุนเดสลีกาได้นอกเหนือไปจาก บาเยิร์น มิวนิค มันเกิดขึ้นในยุคของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เมื่อปี 2012

การเป็นแชมป์นั้นยาก การป้องกันแชมป์ยิ่งยากกว่า และการป้องกันแชมป์บุนเดสลีกาที่มีทีมอย่าง บาเยิร์น มิวนิค หมายมั่นปั้นมือจะกลับมาทวงบัลลังก์คืน อาจเป็นภารกิจที่ยากที่สุด

และเมื่อคำนึงถึงปัจจัยยากอื่น ๆ อย่างการเสริมทีมที่น่ากลัวของดอร์ทมุนด์ ได้ทั้ง วัลเดมาร์ อันทอน, ปาสกาล โกรสส์, มักซิมิเลียน ไบเออร์ และ เซอู กีราสซี่ เข้ามาร่วมทีม การเติบโตของ แอร์เบ ไลป์ซิก หรือการเป็นทีมที่ทุกทีมจ้องจะโค่นให้ได้ มันก็จะเป็นฤดูกาลที่ท้าทายอย่างมากสำหรับทีมห้างขายยา

แต่ถ้าถามว่า ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น พร้อมไหมกับการป้องกันแชมป์คงต้องตอบว่าไม่มีพร้อมไปกว่านี้อีกแล้ว

โค้ชคนสำคัญยังอยู่ นักเตะคนสำคัญไม่หายไปเลยแม้แต่คนเดียว ถ้าทีมอื่นอยากจะแย่งแชมป์บุนเดสลีกาไปจากพวกเขา เลเวอร์คูเซ่น ก็พร้อมเต็มที่ที่จะรักษามันไว้เช่นกัน

คืนนี้รอชมกันครับ เกมแรกในฤดูกาลป้องกันแชมป์ของเลเวอร์คูเซ่น จะทำได้ดีแค่ไหนกับการไปเยือนโบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค

และแน่นอนครับ.. ใครกันที่จะเป็นทีมแรกที่ยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้กับทีมห้างขายยาของ ชาบี อลอนโซ่..

ตังกุย

#จากคอลัมน์กรุ่นกลิ่นหมึก

#หนังสือพิมพ์สตาร์ซอคเก้อร์รายวัน


ที่มาของภาพ : getty images
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport