เลเวอร์คูเซ่น แชมป์ไร้พ่าย, บาเยิร์น จบแบบเจ็บๆ! บทสรุป บุนเดสลีกา ฤดูกาล 2023/24

 เลเวอร์คูเซ่น แชมป์ไร้พ่าย, บาเยิร์น จบแบบเจ็บๆ! บทสรุป บุนเดสลีกา ฤดูกาล 2023/24
ศึกฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมนี ประจำฤดูกาล 2023/2024 ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม ที่ผ่านมา พร้อมกับความสำเร็จสุดยิ่งใหญ่และไร้เทียมทานของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ที่คว้าแชมป์แบบไม่แพ้ใครตลอดการแข่งขัน 34 นัด ซึ่งถือเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ บุนเดสลีกา ที่ทำได้ และนับเป็นแชมป์ลีกสมัยแรกของ "ห้างขายยา" นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรเมื่อปี 1904 อีกด้วย

ทีมของกุนซือ ชาบี อลอนโซ่ ซึ่งการันตีแชมป์ตั้งแต่นัดที่ 29 ปิดซีซั่นด้วยการเปิดรัง ไบอารีน่า เชือด เอาก์สบวร์ก 2-1 พร้อมสถิติตลอดทั้งฤดูกาล ชนะ 28, เสมอ 6, แพ้ 0 โกยไปถึง 90 แต้ม และอย่าลืมว่า เลเวอร์คูเซ่น ยังแพ้ใครไม่เป็นในทุกรายการฤดูกาลนี้ (ชนะ 41, เสมอ 9) แถมกำลังอยู่บนเส้นทางคว้า "ทริปเปิลแชมป์" ซึ่งมีเกมนัดชิงฯ บอลถ้วยอีกสองรายการรออยู่ ซึ่งนั่นก็คือ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก เจอ อตาลันต้า จากอิตาลี วันพุธที่ 23 พฤษภาคม และ เดเอฟเบ-โพคาล เจอ ไกเซอร์สเลาเทิร์น จาก ลีกา สอง วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม 

ส่วนแชมป์เมื่อซีซั่นก่อนอย่าง บาเยิร์น มิวนิค จบแบบสุดเจ็บปวด บุกไปนำ ฮอฟเฟ่นไฮม์ 2-0 แต่สุดท้ายพลิกแพ้ 2-4 มิหนำซ้ำตกไปอยู่อันดับสาม ถูก เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท ที่เปิดบ้านยำ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค 4-0 แซงขึ้นไปเป็นรองแชมป์ โดยที่ แอร์เบ ไลป์ซิก และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซึ่งซีซั่นนี้เข้าถึงรอบชิงฯ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จบที่อันดับสี่และห้า ตามลำดับ และห้าอันดับแรกนี้ ต่างได้สิทธิ์ไปโชว์ฝีเท้าในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า 

มองลงมาที่โซนท้ายตาราง อูนิโอน เบอร์ลิน ไต่ขึ้นมาจบที่อันดับ 15 ไม่ต้องไปเตะเพลย์ออฟหนีตกชั้น หลังเบียดชนะ ไฟร์บวร์ก 2-1 ในเกมปิดซีซั่น พร้อมกับส่ง โบคุ่ม ลงไปอยู่ที่อันดับ 16 แทน ส่วน โคโลญจน์ กับ ดาร์มสตัดท์ รั้งสองอันดับสุดท้าย ตกชั้นลงไปเล่น ลีกา สอง ฤดูกาล 2024/2025

สำหรับตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของฤดูกาล ตกเป็นของ แฮร์รี่ เคน ยอดดาวยิงชาวอังกฤษของ บาเยิร์น ที่กระทุ้งไปถึง 36 ประตู ส่วนจอมแอสซิสต์เป็น อเล็กซ์ กรีมัลโด้ วิงแบ็กฝั่งซ้ายชาวสแปนิขของ เลเวอร์คูเซ่น ที่กดไป 13 แอสซิสต์  

บทสรุปโควตาต่างๆ และตกชั้น

- ทีมที่ได้โควตา ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก : ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น, เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท, บาเยิร์น มิวนิค, แอร์เบ ไลป์ซิก และ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 

- ทีมที่ได้โควตา ยูฟ่า ยูโรปา ลีก : ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต

- ทีมที่ได้โควตา ยูฟ่า ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก : ฮอฟเฟนไฮม์ 

- ทีมที่ตกชั้น : โคโลญจน์ และ ดาร์มสตัดท์ ส่วน โบคุ่ม ยังมีลุ้นอยู่รอด ผ่านการเจอเพลย์ออฟกับ ฟอร์ทูน่า ดุสเซลดอร์ฟ ทีมอันดับสาม จาก ลีกา สอง   

ดาวซัลโว 10 อันดับแรก

- 36 ประตู : แฮร์รี่ เคน (บาเยิร์น มิวนิค)

- 28 ประตู : แซร์อู กีราสซี่ (เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท) 

- 24 ประตู : หลุยส์ โอเปนด้า (แอร์เบ ไลป์ซิก)

- 18 ประตู : เดนิซ อุนดาฟ (เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท)

- 16 ประตู : มักซิมิเลียน ไบเออร์ (ฮอฟเฟนไฮม์)

- 15 ประตู : อันเดร ครามาริช (ฮอฟเฟนไฮม์) และ เออร์เมดิน เดมิโรวิช (เอาก์สบวร์ก)

- 14 ประตู : เบนจามิน เซสโก้ (แอร์เบ ไลป์ซิก) และ วิคเตอร์ โบนิเฟซ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น) 

- 13 ประตู : ดอนเยลล์ มาเลน (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)

- 12 ประตู : มาร์วิน ดุคช์ (แวร์เดอร์ เบรเมน), นิคลาส ฟูลล์ครุก (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์), ทิม ไคลน์ดีนส์ (ไฮเดนไฮม์) และ โอมาร์ มาร์มุช (ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต) 

- 11 ประตู : ฟลอเรียน เวิร์ตซฺ์ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น) และ โยนาส วินด์ (เฟาเอฟแอล โวล์ฟสบวร์ก) 

จอมแอสซิสต์ 5 อันดับแรก

- 13 ครั้ง : อเล็กซ์ กรีมัลโด้ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น)

- 11 คร้ง : ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น), ยาน-นิคลาส เบสเตอ (ไฮเดนไฮม์), ยูเลียน บรันด์ท (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์), ลีรอย ซาเน่ (บาเยิร์น มิวนิค) และ ซาฟี ซิมอนส์ (แอร์เบ ไลป์ซิก)

- 9 ครั้ง : เดนิซ อุนดาฟ (เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท), เออร์เมดิน เดมิโรวิช (เอาก์สบวร์ก), ฟร้องค์ โอโนราต์ (โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค), เควิน สโตเกอร์ (โบคุ่ม), มาร์วิน ดุคช์ (แวร์เดอร์ เบรเมน), โธมัส มุลเลอร์ (บาเยิร์น มิวนิค)

- 8 ครั้ง : ดาวิด รอม (แอร์เบ ไลป์ซิก), แฮร์รี่ เคน (บาเยิร์น มิวนิค), นิคลาส ฟูลล์ครุก (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์), วิคเตอร์ โบนิเฟซ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น) และ วินเชนโซ กรีโฟ (ไฟร์บวร์ก)

- 7 ครั้ง : คริส ฟูห์ริช (เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท), เยเรมี ฟริมปง (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น), โยนาส ฮอฟมันน์ (ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น), โยนาส วินด์ (เฟาเอฟแอล โวล์ฟสบวร์ก), ลีออน โกเร็ตซ์ก้า (บาเยิร์น มิวนิค), หลุยส์ โอเปนด้า (แอร์เบ ไลป์ซิก) และ มิตเชลล์ ไวเซอร์ (แวร์เดอร์ เบรเมน)

  Subinho


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport