11 เกม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ซัดประตูช่วงทดเจ็บคว้าชัย-ไล่ตีเสมอ ฤดูกาลนี้

11 เกม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ซัดประตูช่วงทดเจ็บคว้าชัย-ไล่ตีเสมอ ฤดูกาลนี้
ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น สโมสรแกร่งแห่งศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี กลายเป็นทีมตายยากของจริง หลังสามารถยิงประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บได้มากถึง 11 เกมในทุกรายการซีซั่น 2023/2024

ทัพ "ห้างขายยา" สร้างเรื่องราวปาฏิหาริย์อีกครั้งเมื่อพวกเขาสามารถไล่ตีเสมอ โรม่า 2-2 โดยประตูที่สองมาจากการตะบันของ โยซิป สตานิซิซ ในนาทีที่ 90+7 ส่งผลให้พวกเขารักษาสถิติไร้พ่ายในฤดูกาลนี้ 

ผลเสมอในเกมนี้ทำให้ทีมของกุนซือชาบี อลอนโซ่ สะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น 49 เกมทุบสถิติของ เบนฟิก้า ที่เคยทำเอาไว้ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม 1963 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 1965 เรียบร้อยแล้ว 

สำหรับประเด็นที่น่าสนใจนอกเหนือผลงานไร้พ่าย, ทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วย 2 รายการได้แก่ เดเอฟเบ โพคาล (พบ ไกเซอร์สเลาเทิร์น) และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก (พบ อตาลันต้า) รวมทั้งคว้าแชมป์บุนเดสลีกา นั่นก็คือการที่ เลเวอร์คูเซ่น สามารถยิงประตูในช่วงทดเวลาบาดเจ็บได้หลายแมตช์

กระนั้นประตูช่วงทดเจ็บที่ทำให้ อลอนโซ่ แอนด์ โค. รอดพ้นจากความพ่ายแพ้ หรือคว้าชัยแบบเฉียดฉิวมีอยู่ 11 แมตช์ และนั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้พวกเขาเดินหน้าสร้างสถิตทีมไร้พ่ายจนกระทั่งปัจจุบัน 

สถิติของ เลเวอร์คูเซ่น ในการยิงประตูช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่คว้าชัย-ไล่ตีเสมอในฤดูกาล 2023/2024

1. นาทีที่ 90+4 : เสมอ บาเยิร์น มิวนิค 2-2  (บุนเดสลีกา)

ในสถานการณ์ที่ต้องพบกับ ยอดทีมแห่งแคว้นบาวาเรียนั้น เลเวอร์คูเซ่น กำลังจะพ่ายแพ้อยู่มะรอมมะร่อแต่พวกเขาได้  เอเซเกล ปาลาซิออส ตะบันจุดโทษช่วยตีเสมอได้อย่างน่าเหลือเชื่อ 

2. นาทีที่ 90+4 : ชนะ คาราบัค 0-1 (ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม)

ดูเหมือนแมตช์นี้น่าจะจบด้วยผลเสมอแบบไร้สกอร์อยู่แล้ว แต่ด้วยความที่เป็นทีมไม่เคยยอมแพ้ทำให้ "ห้างขายยา" ได้ประตูชัยในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 4 จากผลงานของ วิคเตอร์ โบนิเฟซ 

3. นาทีที่ 90+4 : ชนะ เอาส์บวร์ก 1-0 (บุนเดสลีกา)

แมตช์นั้นค่อนข้างจะตึงเครียดพอสมควร และ เลเวอร์คูเซ่น ไม่สามารถหาทางเจาะเข้าไปทำประตูได้มากนัก แต่ในที่สุด ปาลาซิออส สวมบทฮีโร่ซัดประตูชัยนำทีมคว้าสามคะแนนสุดสำคัญได้สำเร็จ

4. นาทีที่ 90+1 :  ชนะ แอร์เบ ไลป์ซิก 3-2 (บุนเดสลีกา) 

เกมผ่านเข้าสู่นาทีที่ 70 สถานการณ์ของ เลเวอร์คู่เซ่น กับ ไลป์ซิก ยังคงเสมอกัน 2-2 และในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีแรก ปิเอโร่ อินกาปี จัดการส่งบอลเข้าไปซุกก้นตาข่ายทำให้ "ห้างขายยำ" ชนะ 3-2

5. นาทีที่ 90+1 : ชนะ สตุ๊ตการ์ท 3-2 (บุนเดสลีกา)

สถานการณ์ของ เลเวอร์คูเซ่น จวนเจียนที่จะได้แค่เเต้มอยู่แล้ว หลังทำได้เพียงแค่ไล่ตีเสมอ "ม้าขาว" 2-2 ในนาทีที่ 66 แต่แล้วสวรรค์กำหนดให้พวกเขาคว้าสามคะแนน เมื่อ โจนาธาน ทาห์ ขึ้นมาทำประตูชัยในช่วงทดเจ็บนาทีแรก

6. นาทีที่ 90+2 : เสมอ คาราบัค 2-2 (ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก)

ทัพ "ห้างขายยา" ต้องตกเป็นรอง คาราบัค ถึง 0-2 และทำให้พวกเขาสุ่มเสี่ยงที่จะต้องพบกับความพ่ายแพ้ แต่สุดท้าย อลอนโซ่ สามารถแก้เกมทำให้ครึ่งหลังทีมเล่นได้ดีขึ้นและมาได้ประตูตีไข่แตกจาก ฟลอเรียน เวิร์ตซ์ นาทีที่ 70 กับ  พาทริค ชิค นาทีที่ 90+4

7. นาทีที่ 90+3 และ 90+7 : ชนะ คาราบัค (ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง)

แมตช์นี้ถือว่า อลอนโซ่ แอนด์ โค. สุ่มเสี่ยงจะแพ้เป็นเกมแรกอย่างมาก เมื่อสถานการณ์ของพวกเขาเป็นรอง คาราบัค 0-2 และผ่านไป 90 นาทีสกอร์เปลี่ยนมาตามหลัว 1-2  จนกระทั่งช่วงทดเจ็บนาทีที่ 90+3 ชิค จัดการทำประตูตีเสมอ 2-2 เกมทำท่าต้องแข่งกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่แล้ว ชิค คนดีคนเดิมซัดประตูชัยนาทีที่ 90+7 ทำให้ทีมทะลุเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศได้อย่างน่าเหลือเชื่อ 

8. นาทีที่ 90+1 : ชนะ ฮอฟเฟ่นไฮม์ 2-1 (บุนเดสลีกา) 

เป็นอีกครั้งที่ เลเวอร์คูเซ่น ต้องเจอกับแรงกดดันในการเล่น โดยพวกเขาต้องออกแรงอย่างหนักตามตีเสมอผู้มาเยือน 1-1 ในนาทีที่ 88 อย่างไรก็ตาม "ห้างขายยา" ได้สุดยอด ชิค กอบกู้สถานการณ์ด้วยการซัดประตูชัยนาทีที่ 90+1 คว้าสามคะแนนได้อย่างสุดยอด 

9. นาทีที่ 90+7 : เสมอ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 1-1 (บุนเดสลีกา)

ดอร์ทมุนด์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการสู้กับ เลเวอร์คูเซ่น และสามารถทำประตูนำ 1-0 ในนาทีที่ 81 ซึ่งช่วงเวลาแบบนี้แทบจะแบเบอร์ว่า "เสือเหลือง" มีโอกาสคว้าสามคะแนน อย่างไรก็ตาม "ห้างขายยา" ไม่เคยยอมแพ้จนกว่าจะได้ยินเสียงนกหวีดยาวหมดเวลา และพวกเขาก็ได้รับผลตอบแทนแห่งความมุ่งมั่นจากประตูตีเสมอ 1-1 จาก สตานิซิซ ในช่วงทดเจ็บนาทีที่ 7

10. นาทีที่ 90+7 : เสมอ สตุ๊ตการ์ท 2-2 (บุนเดสลีกา)

มีความเป็นไปได้ว่า เลเวอร์คูเซ่น อาจถอนคันเร่งในเกมลีกหลังคว้าแชมป์ไปเรียบร้อยแล้ว เพราะพวกเขามักจะโดนคู่แข่งยิงนำตลอด อย่างในเกมกับ "ม้าขาว" ก็ต้องไล่ตาม 0-2 แต่ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย ทีมพยายามเร่งเครื่อง และมาได้ประตูตีตื้นในนาทีที่ 61 ก่อนที่ โรเบิร์ต อันดริช จะซัดประตูตีเสมอ 2-2 ทำให้ทีมรอดพ้นความพ่ายแพ้ไปอย่างหวุดหวิด

11. นาทีที่ 90+7 : เสมอ โรม่า 2-2 (ยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ นัด 2)

แมตช์ล่าสุดทุกคนคงได้เห็นแล้วว่า เลเวอร์คูเซ่น ค่อนข้างจะไร้โชคพอสมควรเมื่อพวกเขาบุกยำ โรม่า และสร้างโอกาสยิงประตูได้หลายครั้งแต่จนแล้วจนรอดก็ยิงไม่เขา แถมดวงแตกมาโดนทีมเยือนซัด 2 ประตูทำให้ทีมตกเป็นรอง 2-0 สกอร์รวมเสมอ 2-2 อย่างไรก็ตามในช่วง 10 นาทีสุดท้ายเหมือนดวงพวกเขาจะกลับมาอีกครั้งและมาได้ประตูตีไข่แตก 1-2 แบบมีโชคจังหวะที่ จานลูก้า มันชินี่ ทำเข้าประตูตัวเองในนาทีที่ 82 แม้ตอนนั้นสกอร์รวมจะทำให้ "ห้างขายยา" ชนะ 3-2 ก็ตาม แต่เจ้าบ้านไม่ยอมแพ้ เพราะอยากรักษาสถิตไร้พ่ายต่อไป จนเข้าสู่นาทีที่ 90+7 สตานิซิซ โชว์ลีลาสุดเหนือชั้นก่อนซัดตีเสมอ 2-2 

ทอมเม้ง


ที่มาของภาพ : getty images
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport