สุดสัปดาห์นี้ถือเป็นโปรแกรมที่ศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน น่าจะดุเดือดสุดๆ เพราะมันมีเกมใหญ่ถึง 3 เกมด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นศึกที่ ไอน์ทรัค แฟร้งค์เฟิร์ต เปิดบ้านเจอกับ บาเยิร์น มิวนิค ในวันเสาร์ที่ 9 ธันวาคมนี้, เกมที่ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ชนกับ แอร์เบ ไลป์ซิก ในวันเดียวกัน และแมตช์ที่ เฟาเอฟเบ สตุ๊ตการ์ท ชนกับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ในวันอาทิตย์ที่ 10 ธันวาคม
ในฐานะที่มันเป็นโปรแกรมใหญ่แบบนี้ เราเลยจะถือโอกาสนี้มานำเสนอเกร็ดที่น่าสนใจบางอย่างเกี่ยวกับทั้ง 3 แมตช์สำคัญที่ว่านี้กัน ลองไปดูกันเลยดีกว่าว่ามันมีอะไรบ้าง
- แฟร้งค์เฟิร์ต vs บาเยิร์น
: คู่แข่งที่รัก
2 เกมหลังสุดที่ บาเยิร์น เดินทางไปเยือน แฟร้งค์เฟิร์ต พวกเขาเก็บชัยชนะได้ทั้งหมด นั่นรวมถึงเกมที่ถล่มแบบขาดลอย 6-1 ในนัดเปิดซีซั่นที่แล้วด้วย ซึ่งถ้านับเฉพาะใน บุนเดสลีกา "เสือใต้" ก็คือทีมที่บุกไปเก็บชัยที่ แฟร้งค์เฟิร์ต ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์เช่นกัน จากการทำได้ถึง 19 ครั้ง
: เหยื่ออันโอชะของ ซาเน่
จนถึงตอนนี้ ลีรอย ซาเน่ ทำประตูในเกมระดับ บุนเดสลีกา ไปแล้วรวม 40 ลูก แบ่งเป็น 11 ประตูตอนอยู่กับ ชาลเก้ 04 และ 29 ประตูในสีเสื้อ บาเยิร์น ซึ่ง แฟร้งค์เฟิร์ต ก็คือทีมที่เขาเจาะตาข่ายได้มากที่สุดใน บุนเดสลีกา หลังทำได้ 4 ครั้ง แถมถ้านับรวมแอสซิสต์เข้าไปด้วยมันก็เท่ากับว่าเขามีส่วนร่วมในการทำประตูใส่ แฟร้งค์เฟิร์ต 6 ลูก จนทำให้นี่เป็นคู่แข่งที่เขามีส่วนร่วมในการทำประตูมากเป็นอันดับ 2 รองจากเวลาเจอกับ ดอร์ทมุนด์ (8 ครั้ง) แค่ทีมเดียวเท่านั้น
: ทูเคิ่ล ลุ้นทาบสถิติส่วนตัว
ตอนนี้ บาเยิร์น ฟอร์มร้อนแรงสุดขีดเพราะชนะในลีกได้ถึง 6 นัดติดต่อกัน และหากในวันเสาร์นี้เขาพาทีมเก็บ 3 แต้มได้อีกมันก็จะทำให้ โธมัส ทูเคิ่ล ทาบสถิติส่วนตัวในเรื่องการชนะในเกม บุนเดสลีกา ได้ติดต่อกันมากที่สุดทันที หลังเขาเคยนำ ไมน์ซ ชนะในลีกถึง 7 นัดรวดในช่วงต้นฤดูกาล 2010-11
- ดอร์ทมุนด์ vs ไลป์ซิก
: รอยส์ มาดีเสมอ
จนถึงตอนนี้ มาร์โค รอยส์ มีโอกาสได้ดวลกับ ไลป์ซิก ไปทั้งหมด 12 นัดจากทุกรายการ และเขาก็มีส่วนร่วมกับการทำประตูใส่ทีมดังกล่าวรวมแล้วถึง 11 ประตู ประกอบด้วยการยิงเอง 5 หนกับอีก 6 แอสซิสต์ โดยหนึ่งในนั้นคือประตูที่เขาพา ดอร์ทมุนด์ ขึ้นนำ 1-0 เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ก่อนที่ "เสือเหลือง" จะชนะไป 2-1
: สนามแห่งฝันร้ายของ โรเซ่
เป็นอีกรอบที่ มาร์โก โรเซ่ เทรนเนอร์ ไลป์ซิก จะได้กลับมาเยือนทีมเก่าของตัวเอง หลังจากเขาเคยกุมบังเหียน ดอร์ทมุนด์ ในระหว่างปี 2021-22 อย่างไรก็ตาม กุนซือวัย 47 ปีก็ค่อนข้างไม่ถูกโฉลกเมื่อต้องมาเยือน ซิกนัล อิดูน่า พาร์ค เพราะ 5 ครั้งจากทุกรายการที่ต้องดวลกับ ดอร์ทมุนด์ ที่สนามแห่งนี้นั้น เขากลับออกไปในฐานะผู้แพ้ถึง 4 หน โดยครั้งเดียวที่เขากำชัยที่นี่ได้ต้องย้อนไปถึงตอนพา เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก บุกมาชนะ 2-1 ในเกม ยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายของฤดูกาล 2017-18
: โอกาสเกมจืดน้อย
ด้วยความที่ ไลป์ซิก เพิ่งก่อตั้งทีมเมื่อปี 2009 ทำให้คู่นี้ยังไม่ได้เจอกันมากเท่าไหร่ โดยพวกเขาเผชิญหน้ากันมาแล้ว 16 นัดจากทุกรายการ อย่างไรก็ตาม เชื่อหรือไม่ว่ามันไม่มีครั้งไหนเลยที่คู่นี้จะจบลงด้วยการเสมอกัน 0-0
- สตุ๊ตการ์ท vs เลเวอร์คูเซ่น
: ศิโรราบแก่จ่าฝูง
มันเป็นปกติที่ทีมซึ่งเจอกับจ่าฝูงจะเล่นได้ยาก แต่สำหรับ สตุ๊ตการ์ท พวกเขามีปัญหามากกว่าชาวบ้านเป็นพิเศษ เพราะในเกมลีก 11 นัดหลังสุดที่เจอกับทีมจ่าฝูงในบ้านของตัวเองนั้น พวกเขาเป็นฝ่ายปราชัยทั้งหมด ส่วนครั้งสุดท้ายที่ชนะจ่าฝูงในบ้านของตัวเองได้ต้องย้อนไปถึงเกมที่ไล่ต้อน เฟาเอฟแอล โวล์ฟส์วร์ก เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2009 นู่นเลย
: ดูโออันตราย
จาก 33 ประตูในลีกที่ สตุ๊ตการ์ท ทำได้ในฤดูกาลนี้นั้น มันเป็นผลงานของ แซร์อู กีราสซี่ และ เดนิซ อุนดาฟ รวมกันถึง 24 ประตู และถ้านับเฉพาะ 18 ลูกหนังสุดมันก็เป็นผลงานของ 2 คนนี้รวมกันถึง 16 ลูก ซึ่งใน บุนเดสลีกา ตอนนี้ ไม่มีคู่หูแดนหน้าคู่ไหนอีกแล้วที่จะยิงได้รวมกันมากไปกว่าพวกเขา
: พักหลัง เลเวอร์คูเซ่น ข่มหนัก
หากนับเฉพาะในเกม บุนเดสลีกา แล้วล่ะก็ เลเวอร์คูเซ่น ก็มักจะมีช่วงเวลาที่ดีในการเจอกับ สตุ๊ตการ์ท เพราะพวกเขาไม่แพ้ให้อีกฝ่ยามาถึง 8 นัดติดต่อกันเข้าไปแล้ว แถมในช่วงเวลาที่ว่ายังทำประตูได้ครบทุกเกมด้วย โดยครั้งสุดท้ายที่ เลเวอร์คูเซ่น ทั้งไม่ชนะและยิงใส่ สตุ๊ตการ์ท ในลีกไม่ได้ต้องย้อนไปถึงฤดูกาล 2017-18 ที่เคยแพ้คารัง ไบ อารีน่า 0-1
- เด็กเกร็ดบอล -