"พี่เสือ" บาเยิร์น มิวนิค เรียกความมั่นใจก่อนฟัด เปแอสเช ด้วยการเปิดรังถล่มยับ โบคุ่ม นิ่ม ซิวชัยในลีก 2 นัดติดยึดจ่าฝูงต่อไป ด้าน "เสือเหลือง" ดอร์ทมุนด์ ร้อนแรงบุกรัว เบรเมน พังคาบ้าน ได้สามคะแนนล้ำค่า แซง อูนิโอน เบอร์ลิน ขึ้นรองจ่าฝูงแล้ว ในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน เมื่อวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566
บุนเดสลีกา เยอรมัน
วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566
บาเยิร์น มิวนิค 3-0 โบคุ่ม
สนาม : อัลลิอันซ์ อารีน่า
บาเยิร์น มิวนิค ของเทรนเนอร์หนุ่ม ยูเลี่ยน นาเกลส์มันน์ คืนฟอร์มกลับมาด้วยการบุกถล่ม ไมน์ซ 4-0 ศึกเดเอฟเบ โพคาล ตามด้วยถล่ม โวล์ฟสบวร์ก 4-2 เกมลีกล่าสุด โดยมาระบบ 4-2-3-1 ตำแหน่งผู้รักษาประตูใช้ ยานน์ ซอมเมอร์ เฝ้าเสา แนวรุกส่ง เอริก ชูโป-โมติง กลับมายืนหน้าเป้า
ส่วนฝั่ง โบคุ่ม ที่มี โธมัส เลทส์ช รับบทเทรนเนอร์ แนวรุกวาง ฟิลิพพ์ โฮฟมันน์ ประจำการหน้าเป้า และใช้ ไซมอน โซลเลอร์ กับ คริสโตเฟอร์ อัดเย ขึ้นเกมริมเส้นขนาบข้าง
นาทีที่ 16 เอริก ชูโป-โมติง ได้โอกาสโขกในกรอบเขตโทษ แต่โหม่งพลาดไปเอง บอลหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 41 แฟนๆ เสือใต้ ได้เฮกันลั่น เมื่อ ไซดี ยานโก้ ส่งคืนประตูด้วยน้ำหนักอย่างแย่ ถูก โธมัส มุลเลอร์ ใช้ลูกขยันฉกบอล พร้อมโชว์ความใจเย็นดึงบอลหลบ มานูเอล รีมันน์ ก่อนยิงผ่านเข้าไปอย่างเหนือชั้น พร้อมพา บาเยิร์น มิวนิค ขึ้นนำ 1-0
ก่อนช่วงเวลาที่เหลือ ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดครึ่งแรก บาเยิร์น มิวนิค จึงเปิดบ้านนำ โบคุ่ม อยู่ 1-0
เริ่มครึ่งหลังนาทีที่ 55 เอริก ชูโป-โมติง ได้โอกาสโหม่งอีกครั้ง แต่ก็ยังโขกไม่เข้ากรอบไปอีก
นาทีที่ 64 แฟนๆ เสือใต้ ได้เฮอีกรอบจนได้ จากจังหวะ ลีรอย ซาเน่ จ่ายบอลให้ จามาล มูเซียล่า ตวัดออกขวาในกรอบเขตโทษให้ คิงส์เล่ย์ โกมัน เติมมากดยิงบอลลอดขา มานูเอล รีมันน์ เป็นประตู พา บาเยิร์น มิวนิค ฉีกหนี 2-0
นาทีที่ 74 เสือใต้ มาได้จุดโทษอีก เมื่อ แซร์จ นาบรี้ ไปถูก ไซดี ยานโก้ ทำฟาวส์ในกรอบเขตโทษ ก่อน แซร์จ นาบรี้ ลุกขึ้นมาสังหารอีกไม่เหลือ บาเยิร์น มิวนิค นำโด่ง 3-0
ช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา บาเยิร์น มิวนิค จึงเปิดบ้านถล่ม โบคุ่ม ยับ 3-0 ซิวชัยในลีก 2 นัดติดยึดจ่าฝูงต่อไป
นักเตะตัวจริงของทั้งสองทีม
บาเยิร์น มิวนิค (3-1-4-2) : ยานน์ ซอมเมอร์ - ชูเอา กานเซโล่, ดาโย่ต์ อูปาเมกาโน่, มาไตจ์ส เดอ ลิกต์, แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ - เลออน โกเรทซ์ค่า, จามาล มูเซียล่า - ลีรอย ซาเน่, โธมัส มุลเลอร์, แซร์จ นาบรี้ - เอริก ชูโป-โมติง
โบคุ่ม (4-1-2-3) : มานูเอล รีมันน์ - ไซดี ยานโก้, มิลาน ออร์เดตส์, เออร์ฮาน มาโซวิช, คอนสแตนตินอส สตาฟีลิดิส - อ็องโตนี่ โลซิลล่า ฟิลิปป์ ฟอร์สเตอร์, คุนเด้ มาลอง - ไซมอน โซลเลอร์, ฟิลิพพ์ โฮฟมันน์, คริสโตเฟอร์ อัดเย
แวร์เดอร์ เบรเมน 0-0 โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
สนาม : เวเซอร์ สตาดิโอน
ก่อนเริ่มเกม แวร์เดอร์ เบรเมน ชนะคู่แข่งในลีกมา 2 นัดติดต่อกัน แถม มิทเชลล์ ไวเซอร์ วิงแบ็กขวาคนสำคัญก็พ้นโทษแบน กลับมามีชื่อลงช่วยทีม ส่วนดอร์ทมุนด์นั้นฟอร์มดีไร้ที่ติ ชนะคู่แข่งมา 5 นัดติดต่อกัน เกมที่ผ่านมาก็กดคู่แข่งอย่างไฟร์บวร์กไป 5-1 แบบสบายๆ
ในช่วง 20 นาทีแรก ทั้งสองทีมยังไม่มีโอกาสจะแจ้งเท่าไหร่นัก จนกระทั่ง เบรเมน ได้จังหวะสวนกลับ ก่อนจะได้โอกาสครอสเข้ามาในกรอบเขตโทษจากทางกราบขวา ยูเลี่ยน รีเออร์ซอน พยายามเข้ามาสกัด แต่โดนผิดเหลี่ยม บอลลอยเกือบถากเสาเข้าไป
อีกแค่ 2 นาทีถัดมา เบรเมน ได้โอกาสอีกครั้งจากลูกเตะมุม บอลถูกโยนเข้ามาในกรอบโดย มาร์วิน ดุ๊คซ์ ก่อนจะโดน ยูเลี่ยน บรันดท์ สกัดมาเข้าทางปืนของ มิทเชลล์ ไวเซอร์ ตะบันเต็มข้อ บอลเตรียมจะมุดเข้าใต้คาน แต่ต้องชมความยอดเยี่ยมของ เกรกอร์ โคเบล ที่เซฟลูกนี้ไว้ได้ มิฉะนั้นดอร์ทมุนด์คงต้องตามหลังตั้งแต่ต้นเกม
ก่อนเกมจะเข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรก ยูซซูฟา มูโกโก้ โชคร้ายได้รับบาดเจ็บ ทำให้ทีมต้องส่ง เซบาสเตียง อัลแลร์ ลงมาแทนในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้า ต้องรอดูว่าอาการบาดเจ็บจะร้ายแรงถึงขั้นที่ทำให้เขาพลาดเกมกับเชลซีช่วงกลางสัปดาห์นี้หรือไม่
ในนาทีที่ 37 ทัพเสือเหลืองที่โหมบุกใส่เบรเมนอย่างหนักเกือบได้ประตูขึ้นนำจากลูกยิงไกลของ เอมเร่ ชาน แต่น่าเสียดายที่บอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย ฝั่งทีมเยือน ดอร์ทมุนด์ ครองบอลเหนือกว่าอย่างชัดเจน แต่ยังสร้างโอกาสจะแจ้งได้ต่ำกว่ามาตรฐาน ประตูแรกจึงยังไม่มาเสียที
ทั้งสองทีมยังทำอะไรกันไม่ได้ในช่วงเวลาที่เหลือ ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดครึ่งแรกหลังทดเพิ่มไป 2 นาที เบรเมนกับดอร์มุนด์ยังคงเสมอกัน 0-0
เริ่มครึ่งหลงนาทีที่ 51 จู๊ด เบลลิงแฮม มีโอกาสสับไกยิง แต่ ยิรี่ พาฟเลนก้า ยังยอดเยี่ยม เซฟช่วยทีมนกนางนวลได้อีกครั้ง
นาทีที่ 67 แฟนๆ เสือเหลือง ได้เฮจนได้หลังนวดอยู่นาน เมื่อ เจมี่ บายโน-กิทเท่นส์ ชิ่งบอลให้ นิโค ชล็อตเทอร์เบ็ค เติมเข้ามาในกรอบเขตโทษ ก่อนบอลกระดอนมาเข้าทางปืนของ บายโน-กิทเท่นส์ กดยิงเสาแรกไม่เหลือ พา ดอร์ทมุนด์ นำ 1-0
นาทีที่ 85 ทีมเยือนได้เฮเพิ่มอีก เมื่อ ราฟาเอล เกร์เรยโร่ โชว์ความยอดเยี่ยมกระชากบอลจากแดนตัวเอง ก่อนจ่ายคิลเลอร์พาสให้ ยูเลี่ยน บรันดท์ ดึงบอลหลอก ยิรี่ พาฟเลนก้า ก่อนยิงเข้าไปอย่างเหนือชั้น พา ดอร์ทมุนด์ บุกนำ 2-0
ช่วงเวลาที่เหลือ ทำอะไรเพิ่มไม่ได้ หมดเวลา ดอร์ทมุนด์ จึงบุกอัด เบรเมน คาบ้าน 2-0 ได้สามคะแนนล้ำค่า แซง อูนิโอน เบอร์ลิน ขึ้นรองจ่าฝูงแล้ว
นักเตะตัวจริงของทั้งสองทีม
แวร์เดอร์ เบรเมน : ยิรี่ พาฟเลนก้า - นิคลาส สตาร์ค, มิลอส เวลจ์โควิช, อามอส พีเพอร์ - อันโธนี่ ยุง, เยนส์ สตาเก้อ, คริสติอัน โกรสส์, เลโอนาร์โด บิทเท่นคอร์ท, มิทเชลล์ ไวเซอร์ - นิคลาส ฟึลล์ครู๊ค, มาร์วิน ดุ๊คช์
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ : เกรกอร์ โคเบล - ราฟาเอล เกร์เรยโร่, นิโค ชล็อตเทอร์เบ็ค, นิคลาส ซือเล่, ยูเลี่ยน รีเออร์ซอน - เอมเร่ ชาน, จู๊ด เบลลิงแฮม, โจวานนี่ เรย์น่า, มาร์โค รอยส์, ยูเลี่ยน บรันดท์ - ยูซซูฟา มูโกโก้