What the hell is going on - เกิดนรกอะไรขึ้นกับ ลิเวอร์พูล ???
1. บอสส์ เอฟเฟ็กต์
ตอน เจอร์เก้น คล็อปป์ ประกาศอำลาตำแหน่งล่วงหน้า เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา 'หงส์แดง' นำเป็นจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก โดยทิ้งห่างทีมตามถึง 5 แต้ม อยู่เลยนะครับคุณ !!!
หลังจากนั้น พวกเขาก็สะดุดแพ้ อาร์เซน่อล ที่
เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม แต่สามารถคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ เป็นรายการแรกได้สำเร็จ ก่อนจะมาพลาดท่าถูก แมนฯ ยูไนเต็ด เขี่ยตกรอบ เอฟเอ คัพ ตามมาด้วยการถูก อตาลันต้า เขี่ยตกรอบ ยูโรปา ลีก
มิเท่านั้นในพรีเมียร์ลีก 5 นัดล่าสุด ลิเวอร์พูล เอาชนะคู่แข่งได้แค่ 2 เกมเท่านั้น โดยทำแต้มหลุดมือไปถึง 8 คะแนน !!!
ลูกทีมอาจแสดงความมุ่งมั่นและทุ่มเทมากขึ้น เพื่อเจ้านายก็จริง เพียงแต่ในทางกลับกัน การประกาศอำลาทีมกระทันหันก่อนจบซีซั่นอาจส่งผลต่อสภาพจิตใจของนักเตะเช่นกัน
2. ลิเวอร์พูล มักเสียประโยชน์จากมาตรฐานที่บัดซบของผู้ตัดสินในพรีเมียร์ลีก
ตัวอย่างล่าสุดในมหาศึกกับ แมนฯ ซิตี้ เอากันตรงๆ ผมมองอย่างเป็นกลางว่าพวกพรี่ๆ ควรได้จุดโทษในนาทีสุดท้ายจากจังหวะที่ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ถูก เฌเรมี่ โดกู เอาตีนยันเข้าที่หน้าอก !!!
เรื่องความห่วยแตกของผู้ตัดสินเหมือนจะทำให้พวกเขาหัวเสียมิใช่น้อย
3. กุนซือตะโปดเหล็กวางแผนผิดพลาดในนัดที่ 2 ของศึก ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมที่ แอนฟิลด์
เมื่อเขาจัดตัวผู้เล่นแบบเต็มอัตราศึกลงไปกะซวก Rule Darkz สปาร์ต้า ปร้าก 6-1 ทั้งที่บุกไปกำชัยในเกมแรก ด้วยสกอร์ 5-1
ต่อเมื่อทำศึกแดงเดือด ฉบับ เอฟเอ คัพ กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ในอีก 3 วันต่อมา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาออกอาการหมดแรงในช่วงต่อเวลาจนเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้แพ้พ่าย
การถูกคู่แค้นที่คุณภาพต่ำกว่าอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด เขี่ยตกรอบ มันส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจหรือเปล่าก็ไม่ทราบ
แต่ที่แน่ๆ คือหลังจากการศึกครั้งนั้น ลิเวอร์พูล ก็มีเกมที่ออกทะเลแบบเป็นซีรี่ส์เลยทีเดียว
4. หมดพลังทั้งผู้เล่นและผู้จัดการทีม
การลุ้น 4 แชมป์ และความหวังคว้า 4 แชมป์ ส่งผลให้ผู้เล่นต้องกรำศึกหนักแบบรอบทิศทางมากเกินไปบนความตึงเครียด
นอกจากนี้ต้องไม่ลืมว่าด้วยรูปแบบการเล่นที่เรียกว่า 'เฮฟวี่ เมทั่ล ฟุตบอล' มันต้องใช้พละกำลังมหาศาลมาก
สังเกตว่าช่วงหลังๆ หากถูกคู่แข่งขึ้นนำ พวกพรี่ๆ เขามักจะเร่งเครื่องไม่ขึ้นจนกลับมาจากป่าช้าไม่สำเร็จ
ส่วน เจอร์เก้น คล็อปป์ เองก็โรยราไปเยอะ เพราะใช้พลังงานในการคุมทีมอย่างหนักหน่วงมากจนถึงขนาดประกาศอำลาทีมล่วงหน้า
หัวหน้าเผ่าหมดพลัง ลูกทีมก็หมดพลัง
5. ความมั่นใจเหือดหาย
มันสะท้อนออกมาจากการใช้โอกาสทำประตูอย่างสิ้นเปลืองนี่แหละ
ย้อนกลับไปในเกมเยือน อตาลันต้า
จังหวะที่ โม ซาล่าห์ กระดกข้ามหัวนายทวาร ปกติจังหวะแบบนี้พี่แกไม่มีพลาด
หรืออย่างในเกมล่าสุดที่ กูดิสัน พาร์ค
จังหวะหลุดไปยิงแบบเหน่งๆ ของ ดาร์วิน นูนเญซ แทนที่จะเล่นทางไปที่มุมกว้าง 'น้องนุ่น' กลับเลือกที่จะตะบันแบบเต็มตีนเตี่ย...ซะงั้น
การยิงที่เอาแรงไว้ก่อนแบบนี้แหละครับที่แสดงให้เห็นว่าผู้เล่นไม่มีความมั่นใจในตัวเอง
ก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูล จัดเป็นทีมที่มีอัตราความเป็น 'เจสัน' สูงมาก พวกเขาเพิ่งแพ้ไปแค่ 2 นัดจาก 31 เกมในพรีเมียร์ลีก
ทว่า 3 เกมล่าสุด พลพรรคหงส์แดงกลับเสียหลักพุ่งชนความปราชัยไปเท่ากับที่มันเกิดขึ้นใน 31 เกมแรกซะอย่างนั้น !!!
โบนัส แทร็ค: พวกพรี่ๆ อย่าเพิ่งถอดใจ เด็กผีอย่างผมมองว่า...เรื่องมันยังไม่จบง่ายๆ สาบาน
"บอ.บู๋"