ใครจะคว้าแชมป์ สเปน ปะทะ อังกฤษ ปิดฉาก ยูโร 2024 ทรูวิชั่นส์ ยิงสด

ใครจะคว้าแชมป์ สเปน ปะทะ อังกฤษ ปิดฉาก ยูโร 2024 ทรูวิชั่นส์ ยิงสด
ทรูวิชั่นส์ ยิงสดนัดชิง ยูโร 2024 ทีมชาติสเปน ปะทะ ทีมชาติอังกฤษ เช้าตรู่วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคมนี้ เวลา 02.00 น. ทรูวิชั่นส์ และทรูวิชั่นส์ นาว ถ่ายทอดสดทางช่อง True Premier Football 3 (603)

ศึกฟุตบอล ยูฟ่า ยูโร 2024 เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศ เป็นการโคจรมาพบกันของ "กระทิงดุ" สเปน แชมป์ยุโรป 3 สมัย กับ "สิงโตคำราม" อังกฤษ รองแชมป์เก่า ที่กำลังตามล่าแชมป์เมเจอร์ใบที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของประเทศต่อจากแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1966

รอบชิงชนะเลิศนัดนี้ เป็นรอบชิงชนะเลิศ ครั้งที่ 17 ของศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป โดย สเปน จะเข้าชิงเป็นครั้งที่ 5 แล้ว ขณะที่ อังกฤษ เข้าชิงฟุตบอล ยูโร รอบสุดท้ายเป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน ต่อจากครั้งที่แล้วที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพแต่อกหักพ่ายต่อทีมชาติอิตาลี

การพบกันครั้งนี้ของ สเปน กับ อังกฤษ เป็นการปะทะกันหนที่ 3 ของทั้งคู่ในศึก ยูโร รอบสุดท้าย โดย 2 ครั้งก่อนหน้านี้ เป็นทางฝั่ง อังกฤษ ที่เอาชนะไปได้ทั้งหมด ทั้งในรอบแบ่งกลุ่ม ปี 1980 ที่อิตาลี และปี 1996 ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายที่สนามเวมบลีย์

เส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศของ สเปน ถือว่าค่อนข้างโหดทีเดียว ลูกทีมของ หลุยส์ เดอ ลา ฟูเอนเต้ ผ่านรอบแบ่งกลุ่มที่มีทั้ง อิตาลี แชมป์เก่า และ โครเอเชีย มาแบบชนะรวด 3 เกม ส่วนในรอบน็อคเอ้าท์ พวกเขาหักด่าน จอร์เจีย, เยอรมนี เจ้าภาพ และทีมแกร่งอย่าง ฝรั่งเศส มาได้แบบน่าประทับใจ และมีเซอร์ไพรส์แบบสุด ๆ กับสุดยอดดาวรุ่งแห่งวงการฟุตบอลอย่าง ลามีน ยามาล ซึ่งมีโอกาสคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ได้ในวัยเพียง 17 ปี หาก สเปน คว้าแชมป์ได้สำเร็จ

ส่วนฝั่ง อังกฤษ ของกุนซือ แกเร็ท เซาท์เกต แม้จะถูกวิจารณ์เรื่องฟอร์มการเล่น และมีเส้นทางสู่รอบชิงที่เบากว่าสายของ สเปน เป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้อีกครั้ง ด้วยการเอาชนะ สโลวาเกีย, สวิตเซอร์แลนด์ และ เนเธอร์แลนด์ ซึ่งนี่คือโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการแก้ตัวจากความผิดหวังในรอบชิงฯครั้งที่ผ่านมา

แฟนฟุตบอลห้ามพลาด! ศึก ยูโร 2024 รอบชิงชนะเลิศ สเปน พบ อังกฤษ เช้าตรู่วันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคมนี้ เวลา 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย แบบชิด ติดขอบสนาม ทรูวิชั่นส์ และทรูวิชั่นส์ นาว ถ่ายทอดสดทางช่อง True Premier Football 3  (603)


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport