อังกฤษ เต็งหนึ่งที่ไม่เหมือนเต็งหนึ่ง เพราะเล่นเพื่อแชมป์

อังกฤษ เต็งหนึ่งที่ไม่เหมือนเต็งหนึ่ง เพราะเล่นเพื่อแชมป์
ทีมชาติอังกฤษเป็นหนึ่งในตัวเต็งของศึกยูโรครั้งนี้

ก่อนเริ่มทัวร์นาเม้นต์ อังกฤษ ได้รับการจับตามองว่าเป็นเต็งหนึ่งด้วยซ้ำ หรือกระทั่งผลงานตะกุกตะกักในรอบแรก พอเข้ารอบสองไปอยู่สายล่างไม่เจอสเปน เยอรมัน ฝรั่งเศส โปรตุเกส เบลเยียม ก็ยังคงได้รับความไว้วางใจให้เป็นเต็งหนึ่ง

แต่อังกฤษเป็นเต็งหนึ่งที่เล่นฟุตบอลไม่เหมือนทีมเต็งหนึ่ง

น่าเบื่อ น่ารำคาญ น่าหงุดหงิดชวนโมโห เป็นทีมใหญ่แท้ ๆ นักเตะดี ๆ ก็มากมาย แต่กลับเน้นความรัดกุมเกินเหตุ ดึงช้า ผ่านบอลไปมา ส่งคืนหลังบ่อย ตั้งเกมกันอยู่อย่างนั้นไม่ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักที

เรื่องเปิดเกมบุกขึงคู่แข่งแบบพับสนามลืมไปเลย เรื่องสปีดบอลเร็ววูบวาบฉึบฉับ ต่อบอลไหลลื่นเนียนตา เดินหน้าลุยเพื่อเอาประตู ได้มาแล้วก็เอาอีก ภาพเหล่านี้ก็โยนทิ้งไปได้เลยเช่นกัน

หลายคนโมโหอังกฤษที่เล่นฟุตบอลแบบนี้ ทำเหมือนกับคนดูและกองเชียร์เป็นตัวอะไรสักอย่างที่โง่งม

แน่นอนครับ เราไม่อาจห้ามความรู้สึกที่เกิดขึ้นในกลุ่มคนที่คาดหวังได้หรอก

แต่ก็นั่นแหละ เราอยู่ในจุดของเรา ส่วนเขาก็อยู่ในจุดของเขา อยู่บนความคาดหวังและเดิมพันอีกแบบ เป็นเดิมพันในแบบที่เล่นเอง เจ็บเอง เล่นจริง เจ็บจริง

ไม่มีใครไปแข่งโดยไม่หวังความสำเร็จตามเป้าหมายหรอก ทีมเล็กก็วางเป้าหมายอย่างหนึ่ง ทีมใหญ่ก็วางเป้าหมายอีกอย่างหนึ่ง

สำหรับอังกฤษ เราทำความเข้าใจได้ไม่ยากอยู่แล้วว่าเป้าหมายของพวกเขาคืออะไร.. แชมป์.. เข้าชิง หรืออย่างน้อยก็รอบตัดเชือกที่ต้องไปให้ถึง

ก็เพราะพวกเขาเป็นทีมใหญ่ที่มีศักยภาพมากพอที่จะเป็นแชมป์ เช่นเดียวกับทีมใหญ่รายอื่น ๆ

ในวันนี้ที่อังกฤษเข้าชิง เสียงตำหนิติเตียนอาจจะคลายลงไปบ้าง แต่ต้องบอกว่าในภาพรวมของทัวร์นาเม้นต์นี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังคงน่วมที่สุด และหลายคนก็อาจจะรอวันที่เขาล้มในนัดชิงวันอาทิตย์นี้

เขากลายเป็นไอ้กระจอกและขี้ขลาด ถูกด่าจมธรณี บางคนยังคงดูถูกไม่ให้ค่าแม้กระทั่งในวันที่เพิ่งจะพาทีมชาติอังกฤษเข้าชิงยูโร 2024 และเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน

ครั้งที่แล้วก็ถูกค่อนขอดว่าเพราะได้เล่นในบ้าน มาครั้งนี้ยกพลมาทำได้ถึงเยอรมันก็ยังไม่วายมีเสียงด่าไม่ยอมรับ

มันก็แค่ไอ้โค้ชกระจอก ขี้ขลาดตาขาว ให้นักเตะมาคอยแบกตัวเอง วางแผนไม่ได้เรื่อง แก้เกมไม่เป็น พึ่งพาแต่ความสามารถเฉพาะตัวของลูกทีม

คนไม่ชอบ.. จะทำอย่างไรเขาก็ไม่ชอบ เซาธ์เกตไม่ได้มีบุคลิกที่มีเสน่ห์เตะตาเป็นทุนเดิม แถมยังให้ทีมเล่นฟุตบอลอะไรก็ไม่รู้ ต่อให้พาทีมเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกก็ยังอาจจะมีบางส่วนไม่ยอมรับด้วยซ้ำ

โชคมันดี จังหวะมันดี ดวงมันดี ก็ไม่เจอทีมนั้นนี่หว่า ไม่เจอทีมนี้นี่หว่า ลองไปเจอทีมโน้นดูสิมันก็ไปไม่รอด

ก็เพราะเขาทำทีมเล่นไม่ถูกใจ บางคนเลยด่าแบบจิกหัวเป็นแค่ไอ้คนขี้ขลาดไม่กล้าให้ลูกทีมเล่นเกมบุก

สมควรโดนแล้ว ก็วางทัศนคติแบบนี้ให้ลูกทีม จะให้ยอมรับได้ยังไง

วิธีการเล่นของอังกฤษในยูโร 2024 ไม่น่าประทับใจหรอกครับเมื่อยึดแนวทางรัดกุมเป็นหลักอย่างนี้ ในยูโรคราวนี้เห็นจะมีแค่ 45 นาทีแรกของเกมเมื่อคืนวันพุธกับฮอลแลนด์นี่แหละที่บอลของอังกฤษขึ้นหน้าเร็วหน่อยและครอบครองบอลบุกเข้าใส่ พยายามหาโอกาสทำประตู ดูกระฉับกระเฉง

แต่พอเข้าครึ่งหลังก็อีหรอบเดิม เน้นชัวร์ไม่เน้นเชียร์

แฟนบอลดีใจที่เห็นทีมเข้าชิง แต่ก็อดถอนหายใจไม่ได้ว่าทำไมทีมสิงโตคำรามถึงเป็นอย่างนี้..

---------------

อันที่จริงแล้ว ผมเชื่อว่าโค้ชทุกคนอยากจะทำให้ดีที่สุดทั้งนั้น ดีที่สุดทั้งผลงานในสนามและผลลัพธ์ที่ออกมา

อยากจะทำทีมฟุตบอลที่เล่นได้สนุก ดูมัน ชนะคู่แข่งไม่พอยังชนะใจคนดูด้วย

นั่นล่ะความสำเร็จที่ใฝ่ฝัน เป็นเกียรติยศที่ปรารถนาเลยล่ะ

แต่กับบางเรื่องและบางภารกิจ เหตุผลจำเป็นต้องมาก่อนความรู้สึกจริง ๆ

การประเมินจุดอ่อนจุดแข็งของตัวเอง รู้จักตัวเอง และกำหนดวิธีการอย่างรอบคอบที่สุดคือเรื่องที่จำเป็นต้องทำมากกว่า

จะเลือกเล่นฟุตบอลเกมบุกลุยแหลกที่แฟนบอลถูกใจก็ได้ มันไม่ยากหรอกกับทีมที่มีนักเตะตัวรุกระดับโลกเต็มไปหมดอย่างนี้ แต่ประเมินแล้วถ้าทำอย่างนั้นทีมอาจไปไม่ถึงดวงดาวเพราะเกมรับชุดนี้ไม่ได้แข็งแกร่งแถมมีปัญหา

ทีมที่มีเกมบุกฉกาจฉกรรจ์กี่ทีมกันแล้วที่ต้องหัวทิ่มกลับบ้านก่อนเพราะไปพังที่เกมรับ

อังกฤษชุดนี้ไม่มีเซนเตอร์แบ๊กตัวหลักอย่าง แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ไม่ได้ติดทีมมา คนที่จะยืนคู่กับ จอห์น สโตนส์ อย่าง มาร์ก เกฮี ก็มีประสบการณ์ไม่มากในเกมทีมชาติ แบ๊กขวาจัด ๆ อย่าง รีซ เจมส์ ก็เจ็บ แบ๊กซ้ายเจ๋ง ๆ อย่าง เบน ชิลเวลล์ ก็เพิ่งหายเจ็บไม่ได้ร่วมทีมมาอีกคน

คนที่มีอยู่อย่าง ลุค ชอว์ ก็สภาพความฟิตไม่เต็มร้อย

ถ้าเราเป็นเซาธ์เกตจะมองทีมของตัวเองอย่างไรกับตำแหน่งแชมป์ยูโรคราวนี้ พื้นที่นั้นมีได้แค่ทีมเดียวเสียด้วย

จะทำอย่างไรเพื่อไปให้ถึงตรงนั้น.. ผมคิดว่าเขาคิดละเอียดถึงเป้าหมายนั้น จริงจังกับมันอย่างที่สุดต่างหาก ถึงปรากฏออกมาเป็นรูปแบบการเล่นอย่างที่หลายคนโมโหแบบนี้

ก็นั่นล่ะครับ เพราะกับบางเรื่องและบางภารกิจ เหตุผลก็จำเป็นต้องมาก่อนความรู้สึกจริง ๆ

ไม่ใช่ทุกครั้งหรอกที่แผนงานก่อนเข้าทัวร์นาเม้นต์จะเป็นการเล่นเกมบุกให้สนุก เอาชนะคู่ต่อสู้อย่างเด็ดขาด และชนะใจแฟนบอลด้วย แม้คุณจะเป็นทีมใหญ่อุดมไปด้วยนักเตะชั้นเลิศ

เพราะฟุตบอลทัวร์นาเม้นต์ที่เตะกันแค่ 6-7 นัดไม่เหมือนฟุตบอลลีกที่ฟาดแข้งกันยาวนาน 10 เดือน

บอลลีกคุณมีจังหวะขึ้นมีช่วงเวลาตก หรือกระทั่งอาจพ่ายแพ้ได้ แต่บอลทัวร์นาเม้นต์เข้ารอบน็อคเอ๊าต์แพ้ตกรอบสถานเกียว คุณต้องบริหารและวางแผนให้ช่วงเวลาที่ดีที่สุดมาอยู่กับคุณให้ได้ในเดือนเดียวนั้น

คุณอาจจะยังต้องการจังหวะที่ดีและเป็นใจ ทีมใหญ่รายอื่นอาจไปเจอกันเองเสียก่อน แต่นั่นคือเรื่องลมเพลมพัด ไม่มีอะไรแน่นอน แจ๊คพ็อตอาจกลายเป็นเราเองก็ได้

เพราะฉะนั้นจังหวะไม่ได้สำคัญไปกว่าฝีมือ คุณต้องมีการวางแผนที่ดี และการเตรียมตัวที่พร้อมด้วย

มันต้องหาวิธีการที่เหมาะสมที่สุดในการพาทีมไปสู่เป้าหมาย สำหรับอังกฤษก็คือนัดชิงต้องไปให้ถึง แชมป์ได้คือวิเศษที่สุด

ทัวร์นาเม้นต์ยูโร 2024 เตะกันหนึ่งเดือนเต็ม จำนวนเกมมากที่สุดที่จะเล่นได้ถึงคือ 7 นัด เฉลี่ยแล้วต้องลงเตะตลอดเดือนโดยมีเวลาพักแค่ 4 วันในแต่ละเกม

ต้องผ่อนหนักผ่อนเบา แบ่งสัดส่วนการใช้พลังงานให้ดีที่สุด รีดพลังหมดตั้งแต่รอบแรกไม่มีประโยชน์เท่าการแบ่งใช้พลังจุดระเบิดให้ถูกที่ถูกเวลา

คุณจะให้ตัวเองเล่นอย่างไรเพื่อไปถึงเป้าหมายนั้น บางทีการกระหน่ำบุกลุยแหลกอาจไม่ใช่คำตอบ

ผมเชื่อว่าวิธีการเล่นของทีมสิงโตคำรามถูกกำหนดมาตั้งแต่ก่อนเริ่มทัวร์นาเม้นต์แล้ว มันอาจจะถูกวางเอาไว้ตั้งแต่วันเห็นเนื้อเห็นตัวส่งรายชื่อ 26 คนสุดท้ายเลยก็ได้

ก็ถ้าทีมของคุณมีกองกลางดี กองหน้าดี แต่กองหลังไม่ค่อยดี คุณจะวางแผนการเล่นอย่างไร

บอลคางเปราะ ลุยแบบเปิดการ์ดได้ไหม.. ก็ได้ มันได้ใจแฟน ๆ ด้วย เชียร์สนุกน่าประทับใจด้วยเพราะเล่นเกมรุก แต่มันเสี่ยงเกินไปด้วยเหตุผลทางฟุตบอล

เล่นเกมบุก ด้วยสปีดที่รวดเร็ว แบ๊ก 2 ข้างเติมสุด เพรสซิ่งดุดัน เดินหน้าใส่ตลอดเวลา โอกาสได้ประตูมีมากแต่โอกาสเสียบอลก็มากขึ้นตามไปด้วย

แน่นอนคุณอาจได้ใจแฟนบอล ตกรอบด้วยเกมบุกน่าตื่นตา คุณอาจจะได้ยินเสียงปรบมือให้ถึงความกล้าหาญ แต่มันไม่มีประโยชน์อะไร เพราะบทสรุปคือทีมยังต้องรอแชมป์ยุโรปต่อไปอีก 4 ปีเหมือนเดิม

ไม่เพียงเท่านั้น มันยังมีเรื่องการใช้พลังงานให้สมดุลที่สุดสำหรับการเตะ 7 นัดตลอดทัวร์นาเม้นต์ด้วย

ถ้าต้องการได้แชมป์ คุณไม่เพียงต้องพาตัวเองเข้าชิงให้ได้ แต่ยังควรจะมีสภาวะพลังงานที่เหลือเต็มพิกัดสำหรับจุดระเบิดมันในนัดชิงชนะเลิศอีก

เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยในการกำหนดทิศทางการเล่น เซาธ์เกตกับทีมงานอาจจะมองมันแบบนี้ก็ได้

เล่นเกมรุกเต็มที่ ไม่โดนด่าแต่ถูกน็อกลงมาก็เข้าอีหรอบเดิม อังกฤษมันก็ได้แค่นี้ หมูสนามจริง สิงห์สนามซ้อม

หรือควรจะเล่นให้รัดกุมหน่อย ดึงช้าไม่ต้องเร่งหักโหมไปตามจังหวะเกมที่มันยั่วยวน อดทนมีวินัยเข้าไว้ เล่นเผื่อเกมรับที่ไม่เต็มร้อยของทีมด้วย ตราบใดที่เราไม่เสียบอลให้คู่แข่ง เราก็ไม่มีโอกาสเสียประตู

ที่สำคัญคือเกมรุกของอังกฤษอันตรายทุกคน ขอแค่ทีเดียวก็เป็นประตูได้

ระหว่างทางเลือก 2 ทางคือลุยแหลกซื้อเกมรุกอาจยิงได้เกมละ 3-4 ประตูแต่เสี่ยงเสียประตู พ่ายแพ้ และเก็บของกลับบ้าน กับเน้นเกมรับให้แน่น ไม่เสียประตูยืนพื้น แล้วขอโอกาสเหมาะ ๆ ให้ตัวรุกที่อันตรายแบบเรียงตัวจะจิ้มใครก็ได้ ชนะ 1-0 ก็เข้ารอบได้เหมือนกัน

มันก็พอจะเข้าใจได้ถ้าเซาธ์เกตและทีมงานรวมทั้งนักเตะจะทำความเข้าใจตรงกันว่า ทรีไลอ้อนส์จะเลือกวิธีการแบบหลัง หลังจากที่ผ่านประสบการณ์มาด้วยกันเป็นทัวร์นาเม้นต์ที่ 4 เข้าไปแล้ว มองเห็นหน้าเห็นหลังเห็นจุดที่ควรจะเน้นมากขึ้นแล้ว

เพราะเป้าหมายที่ต้องการคือการเข้าชิง ลุ้นแชมป์ประวัติศาสตร์.. ไม่ใช่การเอาใจใคร

ต่อว่าเขาเถอะ จะด่าว่าขี้ขลาดหวาดกลัวอะไรก็ได้ แต่ผลงานที่เป็นรูปธรรมมันปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่า แกเร็ธ เซาธ์เกต ไม่ควรได้รับคำดูถูกดูแคลนด้อยค่าความสามารถเลย

4 ทัวร์นาเม้นต์ติดต่อกันแล้วนะครับที่เขาพาอังกฤษไปได้ไกลกว่าคนอื่น ๆ

ทำไมไม่เล่นแบบสเปน ไม่เล่นแบบเยอรมัน ก็เพราะนี่คืออังกฤษ คือเซาธ์เกต ไม่ใช่ ยูเลียน นาเกลส์มันน์ ไม่ใช่ หลุยส์ เด ลา ฟูเอนเต้ มันก็แค่นั้น

แนวทางใครแนวทางมัน ทีมใครก็ทีมมัน ข้อจำกัดของแต่ละทีมมีไม่เหมือนกันหรอก โค้ชเองก็เช่นกัน ถ้าอังกฤษเล่นบุกอย่างสเปนหรือเยอรมัน บางทีพวกเขาอาจแยกย้ายกันไปพักร้อนแล้วก็ได้

วิธีการของ แกเร็ธ เซาธ์เกต จะผิดหรือถูกไม่มีใครรู้ผลลัพธ์ ทุกการตัดสินใจมีความเสี่ยง แต่สิ่งหนึ่งที่เชื่อว่าเขาเตรียมพร้อมรับมันเอาไว้แล้วก็คือแรงกระแทกมหาศาลในกรณีที่ผลออกมาเป็นอีกอย่าง

การเลือกใช้วิธีการเล่นอย่างนี้ เซาธ์เกตย่อมรู้ว่าความรุนแรงของเสียงวิจารณ์จะเพิ่มเป็น 5 เท่า 10 เท่าถ้าหากเขาพลาดขึ้นมา

ด้วยการเล่นอย่างนี้ บางทีอาจมีเพียงตำแหน่งแชมป์เท่านั้นที่กลบความไม่ถูกใจของแฟนบอลได้ นัดชิงวันอาทิตย์นี้ถ้าอังกฤษเป็นฝ่ายปราชัยเขาก็คงไม่พ้นการถูกยำใหญ่จากสังคมเหมือนเดิม แม้จะพาทีมเข้าชิง 2 สมัยติดนี่แหละ

แฟนบอลของทีมใหญ่ ไม่มีใครพอใจที่เห็นทีมเล่นแบบนี้หรอกครับ เพียงผลลัพธ์สุดท้ายเท่านั้นที่จะเป็นเกราะกำบังให้ได้

ก็เพราะเดิมพันของเราไม่เท่ากัน เดิมพันและศักดิ์ศรีของแฟนบอลนั้นอย่างหนึ่ง ต้องการเห็นทีมเป็นแชมป์แบบบาร์เซโลน่า แบบแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แบบไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น

แต่เดิมพันและภารกิจของคนเป็นโค้ชก็อีกอย่างหนึ่ง อยากเห็นแบบนั้นเหมือนกันแหละแต่ถ้าประเมินศักยภาพทีมแล้วยังไม่ได้ก็ต้องหาวิธีอื่น

ยอมถูกด่าว่าโง่ ยอมถูกค่อนขอดจากคนอื่น ๆ แม้กระทั่งคนในชาติเดียวกันว่ากระจอก วัน ๆ เอาแต่ให้ลูกทีมมาแบก

ผมไม่รู้หรอกครับว่านักเตะทรีไลอ้อนส์จะรู้สึกว่าตัวเองต้องแบกโค้ชเหนื่อยเป็นบ้าเลยมั้ย แต่เท่าที่เห็นก็คือทุกคนยังมีสปิริตที่ดี เล่นตามแผน อดทนมีวินัยทั้งที่อาจไม่ใช่สไตล์ถนัดของตัวเอง

วิธีการไปให้ถึงเป้าหมายนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องคิดประเมินอย่างรอบคอบจริง ๆ ด้วยเหตุผล จะเอาแค่ความรู้สึกหรือความอยากความต้องการนำหน้าไม่ได้

และที่สำคัญคือทุกคนต้องเชื่อในวิธีการนั้นไปด้วยกัน การอธิบายทำความเข้าใจให้ทุกคนเชื่อมั่นและรวมพลังกันเป็นหนึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครจะมาทำก็ได้

ผมคิดว่าตลอด 6 นัดที่ผ่านมานับตั้งแต่เกมแรกกับเซอร์เบีย อังกฤษเล่นในแบบที่รู้จักตัวเองและควบคุมตัวเองได้อย่างมีวินัย เกมรับไม่พร้อมนักก็เน้นความรัดกุมไว้ก่อน ปรับวิธีการเล่นเป็นหลังสาม ยืนแนวห้าคนยามรับ ขยับเป็นหลังสี่เวลารุก

มีนักเตะเกมบุกที่เป็นทีเด็ด มีตัวสำรองที่เป็นโจ๊กเกอร์เปลี่ยนเกมได้เต็มมือ

สงวนพลังงานในแต่ละเกมเอาไว้ด้วย วิ่งบีบรุกไล่บ้าคลั่งแดนบนยังไม่จำเป็นต้องทำ ให้ทุกคนมีสภาพร่างกายที่ดีที่สุดสำหรับวันสำคัญที่สุดถ้าหากเราไปถึง..

แล้วอังกฤษก็ไปถึงแล้วจริง ๆ กับเป้าหมายที่นัดชิง เหลือเพียงภารกิจสุดท้ายเท่านั้นคือรีดพลังที่มีอยู่ออกมาใช้ให้สุด

คราวนี้ไม่ต้องไปเหลือมันไว้แล้ว ทุ่มให้หมดหน้าตักเอาถ้วยอองรี เดอโลเน่ต์ มาให้ได้

ถ้าอังกฤษเล่นเกมรุกอย่างที่ควรจะเป็นสำหรับทีมใหญ่ เราไม่รู้หรอกว่าพวกเขาจะมาถึงตรงนี้ไหมเพราะมันไม่ได้เกิดขึ้น

แต่วิธีเล่นที่ชวนโมโห น่ารำคาญ และทำให้บางคนรู้สึกอับอายขายหน้าชาวบ้านอย่างที่เลือกไว้นี่แหละที่พาทีมสิงโตคำรามเข้าชิงได้สำเร็จ

แน่นอนครับ คำตอบที่ออกมาไม่ถูกใจแฟนบอลเสมอไปหรอก แต่วันนี้พวกเขาก็อยู่ในนัดชิงชนะเลิศแล้ว

เซาธ์เกตพาทีมไปอยู่ที่เบอร์ลินแล้ว ทั้งยังนำพาเอาความฝันของเพื่อนร่วมชาติทุกคนไปที่นั่นด้วยกันด้วย..



ที่มาของภาพ : gettyimages
BY : ตังกุย
ณัฐพล ดำรงโรจน์วัฒนา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport