ขณะนี้เป็นเวลา 05.32 น. บนรถไฟไฮสปีด ขบวน ICE1158 เที่ยวแรกของเช้าวันอาทิตย์, วันที่คุณไม่สามารถช็อปปิ้งได้ในเมืองเบียร์แห่งนี้ ที่มุ่งหน้าสู่ โคโลญจน์ ฐานที่พักชั่วคราวในช่วงศึกยูโรหนที่ 17 ในห้วงเวลาราว 4 ชั่วโมง นิดๆ
ตั๋วแบบ อินเตอร์เรล เดินทางได้ 7 วันภายใน 1 เดือน (ราคา 381 ยูโร) หมดลงแล้ว
ตั๋วที่แบบเดินทางได้ทั่วประเทศเยอรมัน วันไหนใช้ก็เขียนไปในตั๋วที่ได้มา ระบุว่า เดินทางวันไหน จากไหนไปไหน เวลาเริ่มเดินทางสักเท่าไหร่ , วันไหนใช้ จะเดินทางกี่เที่ยว ก็นับเป็นใช้แค่หนึ่งวัน ครับ แต่ใช้เฉพาะสนามที่ไปไกลๆ นอกเขต โคโลญจน์ - ดุสเซลดอร์ฟ - ดอร์ทมุนด์ - เกลเซ่นเคียร์เซ่น ซึ่งเป็นโซนเดินทางฟรี ชนชั้นนักข่าวอย่างเราเดินทางรถไฟท้องถิ่น คลุมหมด
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรนะครับ เพราะมีอีกเงื่อนไข ซึ่งคล้ายๆ กับแฟนบอล
คุณสามารถคลิกลิ้งค์ DB Ticket Euro 2024 ซื้อตั๋วรถไฟความเร็วสูง ไปได้ทั่วเยอรมัน ในราคาย่อมเยา ไม่สนระยะทาง ชั้นธรรมดาก็เที่ยวละ 29.90 ยูโร, เฟิร์สท์คลาส ก็เป็น 39.90 ยูโรเท่านั้น ถูกกว่ารถไฟอังกฤษบานเลย อย่างไปกลับลอนดอน - ลิเวอร์พูล ถูกสุด เซฟเวอร์ รีเทิร์น เดี๋ยวนี้ต้องจ่ายราว 110 ปอนด์ แล้วฮะ
(เทียบว่า ถ้ามาซื้อใกล้ๆ รถไฟเที่ยวผมนี่ เบอร์ลิน - โคโลญจน์ คุณต้องจ่ายราคา 2nd class 133.99 ยูโร เลยนะครับ!
ย้ำว่า ต้องทำในลิ้งค์เท่านั้น และต้องวางแผนซื้อไว้ก่อน ไม่สามารถมาซื้อที่ ทิคเก็ต ออฟฟิศ ในสถานีรถไฟได้, แต่เค้าช่วยแนะนำได้)
ภาพตัดมาอีกที นาทีนี้เป็นเวลา 12.54 ณ ห้องพักใกล้ย่านนักศึกษา ของเมืองต้นตำรับน้ำหอมรุ่นคุณแม่ คุณยาย 4711
จึงได้มานึกถึงเหตุการณ์ระหว่าง เนเธอร์แลนด์ กับ ตุรเคีย ที่ โอลิมปิกชะตาดิโอน กรุงแบร์ลีน ว่าในมุมมองของใครคนนี้ เห็นอะไรบ้าง, ครับ ก็ตอนเตร็ดเตร่รอเวลาอยู่แถวสถานีรถไฟแห่งเมืองหลวงประเทศเยอรมนีนั้น ไม่สามารถเหยียดกายกับพื้น แบบแฟนบอลบางคน หรือนั่งสัปปะหงก บนเก้าอี้นั่งได้จริงๆ ฮะ พอขึ้นหนอนเหล็กนั่งสบายๆ เท่านั้นหล่ะ ต้องพักฟื้นร่างกายบ้างสิครับ
1.)ทำไมไม่ใช้ ดอนเยลล์ มาเลน
โรนัลด์ คูมัน เลือกที่จะใช้ 11 คนแรก ชุดเดิมที่คว่ำโรมาเนีย ในรอบสิบหกทีม นั่นก็ทำให้สงสัยว่า กองหน้าโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อย่าง มาเลน ทำความดีความชอบด้วยการลงมายิงผีดิบถึง 2 ประตู พร้อมกับฟอร์มฉูดฉาดในครึ่งหลัง เป็นรองก็แค่ โคดี้ กัคโป ซึ่งเล่นได้อย่างเหลือ นั่นยังไม่เข้าตาอีกเหรอ
โดนแบนก็ไม่โดนแบน .. ได้ใบเหลืองช่วงท้ายเกมโรมาเนีย แต่ก่อนหน้านั้น ก็ไม่เห็น มาเลน โดนลงโทษอะไรนี่ครับ อาจจะเป็นเพราะ อดีตเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจอมซัลโว ฟรีคิก + จุดโทษ เปลี่ยนตัวเล่นในแนวรุกกราบขวาเรื่อย ชาฟี ซิมอนส์ เอย เจเรมี่ ฟริมปง เอย จน ดอนเยลล์ มาเลน ได้เป็นตัวจริงครั้งแรกในทัวร์นาเมนต์ ก็ในเกมสุดท้ายรอบแรกที่แพ้ ออสเตรีย นั่นแหล่ะ ซึ่งเขาก็ส่งบอลเข้าตายด้วยนะ แต่เป็น own goal
หะแรกเมื่อเห็นรายชื่อ ก็พยายามเข้าใจว่า อ่ะนะ ชนะ 3-0 มา ยึดชุดเดิมก็ไม่แปลก ต่อให้ไอ้ที่ขาดนะ เป็นการยิง 2 ประตูช่วงท้ายเกม ซึ่ง สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ (ปัจจุบันค้าแข้งกับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม) ที่เล่นไม่ได้โดดเด่นอะไร โดนเปลี่ยนตั้งแต่ฮาล์ฟ-ไทม์ แล้วถ้าหากเล่นกับเติร์กไปเรื่อยๆ ไม่ได้เป็นไปตามที่หวังไว้ ก็น่าจะส่ง มาเลน มาเป็นแผนสอง เหมือนนัดก่อนได้
ปรากฎ ลึกล้ำครับ ..
เนเธอร์แลนด์ เล่นแย่กันถ้วนหน้า ไม่ว่าแนวรับ หรือแนวรุก, หรืออาจจะพูดอีกอย่างว่า ก็เป็นเพราะ ตุรเคีย ของ วินเชนโซ่ มอนเตลล่า นั้นเล่นดีมาก เวลารับอาจจะตั้งแผง 5 คน รับต่ำ หากพอได้บอล เคาน์เตอร์ แอทแทค ได้เร็วครับ แนวหน้าทั้งสาม มี บาริซ ยิลมาซ ยืนตัวกลาง ขนาบด้วยสองวัยเยาว์ อาร์ด้า กือแลร์ และ เคนัน ยิลดิซ
ถ้าหากลูกฟรีคิกสวยๆ ของไอ้หนู อาร์ด้า กือแลร์ ที่ดูแล้ว น่าจะไปได้ไกล ไม่ไปชนเสา แล้วเปลี่ยนเป็นสกอร์ 2-0 หล่ะก้อ เนเธอร์แลนด์กลับมายากแล้วหล่ะครับ …
ผมก็เฝ้ารอนะ เมื่อไหร่ มาเลน ลง เมื่อไหร่ มาเลน ลง
ปรากฎ คูมัน ที่อยู่ในชุดแชมป์ยุโรป ปี 1988 บนแผนดินเยอรมัน มีความคิดอีกแบบ และก็ได้ผลเสียด้วยสิ
หรือว่า ลึกล้ำไปกว่านั้นอีก ใน 5 ตัวสำรองที่เลือกใช้ ไม่ส่ง ดอนเยลล์ มาเลน … เพราะต้องการความสดไว้เล่นงาน คีแรน ทริพเพียร์ หรืออาจจะเป็น ลุค ชอว์ ฮะ !
2.) เตือนสิงโตไว้ก่อน … ระวังครึ่งหลัง !
เบิร์กไวน์ โดนเปลี่ยนตอนฮาล์ฟ-ไทม์ 2 นัดซ้อนเนี่ย นัดหน้าเป็นตัวจริงอีกหล่ะก้อ ไม่อยากจะเชื่อเลย
พักครึ่งเวลา ตามหลังเติร์กอยู่ประตูนึงนั้นไม่เท่าไหร่ แต่การเล่นโดยรวมแย่ และยังไม่สามารถยิงตรงกรอบได้เลยสักครั้ง ผมก็เห็นด้วยที่ เนเธอร์แลนด์ ต้องทำอะไรสักอย่าง
การส่ง เวาต์ เว็กฮอร์สท์ (ต้นสังกัดแท้จริงยังเป็น สโมสรเบิร์นลี่ย์ ,แต่ซีซั่นที่ผ่านมา ฮอฟเฟนไฮม์ ยืมตัว) อาจจะโดนส่ายหัวจากแฟนบอลในพรีเมียร์ลีก และโดยเฉพาะกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หากก็เห็นได้ชัดว่าพอมายืนค้ำเป็นตัวสูง ก็ช่วยเปลี่ยนเกมได้
ในขณะที่เกมรับ กัปตัน ฟาน ไดค์ เล่นไม่เป็นฟาน ไดค์ แบ๊คซ้าย นาธาน อาเค่ ก็เล่นไม่เป็นอาเค่ ที่เราคุ้นตาในการเป็นตัวหลักแมนฯ ซิตี้ ต่างได้รับใบเหลืองจากการฟาวล์กองหน้าคู่แข่ง
เกมรุก ซาฟี ซิมอนส์ ไม่ว่าจะเล่นบทเบอร์สิบ หรือถ่างออกไปด้านขวาแทนตำแหน่ง เบิร์กไวน์ ก็ไม่ได้สร้างโอกาสที่ดีให้เหมือน แม้บางครั้งจะเห็นว่าเขาอยู่ในตำแหน่งที่ดีแล้วนะ
เนเธอร์แลนด์ ยังสามารถมีโมเมนต์ของตัวเองได้ กับการทำ 2 ประตู ในเจ็ดนาที ที่ชี้ชะตาเกมนี้
ก่อนลูกโหม่งตีเสมอของเซ็นเตอร์แบ๊ค สเตฟาน เดอ ฟราย ใครคนนี้ยังดูสถิติอยู่เลยว่า ปาเข้าไป 68-69 นาทีแล้ว อัศวินสีส้มยิงตรงกรอบแค่ครั้งเดียวในเกมนี้ จากโอกาสคุกคามเพียง 6 ครั้ง
แต่มันก็มีอีกสถิติหนึ่งที่เห็นตอนพักครึ่งว่า ในเกมระยะหลัง พวกเขาจะชอบ “ยิงครึ่งหลัง” , ก่อนหน้าแม็ตช์ที่ เบอร์ลิน … 18 ประตูจากทั้งหมด 23 ประตู เกิดขึ้นใน เซเคิ่น ฮาล์ฟ
ทัวร์นาเมนต์นี้ นัดแรก เว็กฮอร์สท์ เปลี่ยนลงมายิงดับโปแลนด์ นาที 83 (เป็นงัยหล่ะ เว็กฮอร์สท์ ก็ไม่ต่างจาก นิคลาส ฟึลครู๊ก กองหน้าสำรองเยอรมัน เลยนะเนี่ย)
ส่งท้ายกรุ๊ปสเตจ แพ้ ออสเตรีย ก็ยิง 2 ประตูในครึ่งหลัง
อาจจะต้องนับมากกว่านี้ด้วยนะ ถ้าประตูนาที 69 จาก ชาฟี ซิมอนส์ ที่ส่งบอลเข้าตาข่ายฝรั่งเศส ไม่โดนเรฝเฟอรี่อังกฤษ ใช้วีเออาร์ตัดสิน ค้านสายตาใครหลายใคร
เกมกับโรมาเนีย ได้เห็นตัวจี้ด มาเล่น ยิงนาที 83 และ 90 +3
และก็มาถึงนัดล่าสุด แซงกลับมาชนะ ตุรเคีย ที่เล่นไม่ดี แต่ยังหาโมเมนต์ของตัวเองได้ การได้ประตูแรกไม่ว่าจะฝั่งเติร์ก และฝั่งดัตช์ นั้น การป้องกันแย่มากทั้งคู่
ก่อนที่ประตูตัดสิน โคดี้ กัคโป ไม่ได้ยิงโดยตรง และเงียบไปหน่อยโดยเฉพาะครึ่งแรก แต่คุณก็ต้องชมหล่ะ ที่วิ่งมากดดันจนแบ๊คขวา แมร์ต มุลเดอร์ กลายเป็นคนส่งบอลเข้าประตูตัวเอง ซึ่งตอนเห็นจังหวะในสนามก็มองลำบากนะครับ ยังสงสัยเลยว่า ใครส่งบอลเข้าประตูกันแน่ และก็นึกว่า ต้องเป็นกัคโป แน่ๆ เพราะทางยูเอฟ่า ก็ขึ้นทำเนียบดาวซัลดว ขยับให้เป็น 4 ประตู ขอรับ
3.) ถึงตอนนี้ ผลสำคัญกว่า ฟอร์ม
อังกฤษ กับ เนเธอร์แลนด์ ในรอบเซมิไฟน่อล ที่ดอร์ทมุนด์ คืนวันพุธนี้ ดูการจัดตัวล่าสุดแล้ว ก็น่าจะยึดโครงสร้างชุดเดิมไว้นั่นแหล่ะ
หากจะเล่นกันน่าเบื่อหรือเปล่า ก็บอกไม่ได้จริงๆ ครับ, แต่ถ้าเดา ก็ “น่าจะ ฮ่าฮ่า”
เนเธอร์แลนด์ ในเกมกับผีดิบ ทำเอาใครคนนี้ตื่นเต้น และหลงเทใจไปว่า เอาแล้ว … มาแล้ว แรงในช่วงน็อคเอ้าต์ นี่แหล่ะ น่ากลัว
ครั้นพอเตะกับ ตุรเคีย เหมือนดึงกลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงว่า อันที่จริง เนเธอร์แลนด์ ก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากขนาดนั้น ผู้เล่นอย่าง เมมฟิส เดอปาย หวังพึ่งประตูลำบาก ซิมอนส์ ก็วูบวาบเป็นบางเกม ไม่สม่ำเสมอ
แต่อังกฤษไม่ได้เล่นเกมรับ แล้วโต้เร็ว แบบตุรเคีย บางที กองหลังดัตช์อาจจะหายใจหายคอขึ้นก็ได้ ทั้งสองฝั่ง ไม่ต้องสนอะไรที่ผ่านๆ มาครับ มาถึงขั้นนี้แล้ว เหลืออีกแค่ 2 เกมจะได้เป็นเจ้ายุโรป ผลนั้นสำคัญกว่าฟอร์มการเล่น ..
ไม่อยากเชื่อว่า ทรงบอลอย่างที่ เซอร์ แกเร็ธ ให้ลูกทีมเล่น จะผ่านมาได้ไกลขนาดนี้ แต่เมื่อมันเหลืออีกเพียง 2 นัด อะไรก็เป็นไปได้หมดขอรับ ..
ซ้อมเรียก “Sir Gareth” ไว้ครับ เผื่อเป็นฮีโร่ของชาติ ด้วยบอลสไตล์ ลบ ลบ แบบนี้นี่แหล่ะ ฮ่า
ลิตเติ้ลโจ