มันก็คงมีแต่เขาเท่านั้น เขาที่คงวิ่งไม่หยุดราวกับเด็กหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ เขาที่พยายามแล้วพยายามอีกที่จะยิงประตูให้ได้แม้ว่านับตัวเลขทั้งหมดตลอดอาชีพก็เหนือกว่าใครทั้งหมด เขาที่เจอเตะอาจมีลุกมาโวยผู้ตัดสินบ้างที่ไม่เป่าแต่ก็ก้มหน้าเล่นต่อไปและเขาที่ร้องไห้ออกมาอย่างไม่อายใคร
"Messi Messi Messi" เสียงแซวจากฝั่งสโลเวเนียดังขึ้นตั้งแต่โฆษกประกาศรายชื่อ
นี่คือความจริงที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ต้องเจอกับจุดที่เขายืนอยู่ของความเป็นซูเปอร์สตาร์ระดับโลก
คนอะไรอายุ 39 แล้วแต่ยังหิวกระหายราวกับว่ายังไม่ประสบความสำเร็จอะไร
นี่คือข้อดีของพี่โด้ นี่เป็นเรื่องที่น่ายกย่องและเอาแบบอย่าง
อย่างไรก็ตามก็น่าคิดว่าหากไม่ใช่เขาแล้วจะยังได้ลงสนามตัวจริงให้กับโปรตุเกสไหม? ถ้าไม่ใช่เขาแล้วจะได้ยืนเต็มเวลาตลอด120นาท่ีหรือเปล่า?
มันไม่ง่ายเลยกับใครก็ตามที่ต้องทำงานกับ โรนัลโด้ อย่างที่ โชเซ่ ฟอนเต้ อดีตกองหลังเพื่อนร่วมทีมเคยเล่าไว้ "ผมต้องลงไปแช่น้ำแข็งตามด้วยเข้าเซาน่าส์ตอนตีสองก็เพราะคำชวนของ คริสเตียโน่ เขาบอกว่าจะช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดี"
บางทีความเป็นมืออาชีพกับความอยากเด่นอยากดังก็อยู่ห่างกันเพียงเส้นบางๆ
ในเกมกับ สโลเวเนีย ก็เหมือนคืนที่ปูพรมแดงให้ พี่โด้ ได้โชว์ออฟ เขาคนเดียวเท่านั้นที่จะเรียกเสียงกรื๊ดได้ทุกท่วงท่า ตั้งแต่ตอนมาถึงสนาม ตอนเปลี่ยนเสื้อผ้ามาวอร์ม ตอนที่หน้ากับชื่อของเขาขึ้นจอมอนิเตอร์ ฯลฯ
เสื้อสกรีนเบอร์7Ronaldoแบบนี้พบเห็นได้เยอะที่สุดในเกมที่โปรตุเกสชนะจุดโทษเข้ารอบแปดทีม
แน่นอนครับเสื้อโปรตุเกสที่เห็นใส่กันเยอะสุดก็ต้องสกรีนหมายเลข 7 กับปัก Ronaldo
ต่อให้บางครั้งจะดูเยอะไปหน่อยเช่นพอได้ฟรีคิกระยะหวังผลก็ต้องเห็นเขาเอาบอลไปตั้งพร้อมก้าวขาถอยหลังออกมารอสังหาร เมื่อคืนวันจันทร์ไม่ต่ำกว่า3-4ครั้งที่พี่โด้ขอจองตัวสังหารฟรีคิก ทั้งที่ในทีมโปรตุเกสก็มีตัวอื่นที่ทำหน้าที่ตรงนี้ได้
ตอนที่ โรนัลโด้ ร้องไห้หลังยิงจุดโทษพลาดในช่วงต่อเวลา ลูกนั้นก็ต้องชม แยน โอบลัค นายทวารสโลเวเนียด้วย ที่พุ่งสุดตัวปัดออกได้ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่วันของเขาซะแล้ว
เส้นทางสู่เบอร์ลินต้องจบลงที่แค่รอบ 16 ทีมที่แฟร้งค์เฟิร์ต ด้วยฝีมือชาติที่มีอันดับฟีฟ่าอยู่ที่ 57 โดยก็เป็นไปได้ว่าอาจเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของเขาด้วย
แต่ก็เป็น CR7 อีกนั่นเองที่อาสาเดินจากวงกลมกลางสนามเข้าไปหาโอบลัคคนแรกตอนที่เกมต้องมาตัดสินด้วยการดวลลูกโทษ ก็ไม่กี่นาทีก่อนหน้าคุณเพิ่งพลาดมาเอง หลังเกมโรแบร์โต้ มาร์ติเนซ โค้ชฝอยทองเผยว่า"คริสเตียโน่ต้องการยิงคนแรก..."
ใช่ หนนี้เขาส่งลูกหนังเข้ากระแทกก้นตาข่าย จากนั้นก็ทำท่าขอโทษแฟนบอลตัวเองในสนามทำนองว่า(ถ้าเขายิงเข้าในเกม)ก็ไม่ต้องมาลุ้นบีบหัวใจอย่างนี้
ตามหลักแล้วฮีโร่ของโปรตุเกสต้องเป็น ดีโอโก้ คอสต้า ผู้รักษาประตูจากเอฟซี ปอร์โต้ที่สร้างประวัติศาสตร์บทใหม่ในยูโรด้วยการป้องกันลูกโทษได้สามครั้งติดต่อกัน เขาก็ได้รับเลือกให้เป็นแมน ออฟ เดอะ แมตช์ด้วย
ความดังความฟีเวอร์ของพี่โด้ต้องยอมรับว่าหาใครเทียบยากแต่อีกทางเขาคือแรงบันดาลใจสำหรับเด็กๆด้วย
ทว่ามันก็เป็นค่ำคืนที่คนพูดถึงแต่พี่โด้กันทั้งนั้น
คนจะเกิดมาเป็นซูเปอร์สตาร์ทำไงได้ คนที่ชีวิตผ่านมาแล้วทุกอย่าง ได้แชมป์มานับไม่ถ้วน สำคัญตัวตนของเขาอยู่ที่ไม่แคร์เสียงจากภายนอก เชื่อในตัวเอง ยึดมั่นในทางที่เดิน
"ผมรู้แต่ว่าจะทุ่มเทเต็มที่ให้ทีม สำคัญที่สุดคือทีมผ่านเข้ารอบแต่แน่นอนผมก็ผิดหวังเล็กน้อยที่ไม่มีสกอร์"เจ้าตัวให้สัมภาษณกับสถานีRTPหลังเกม
นับเฉพาะคืนวันจันทร์พี่โด้มีโอกาส8ครั้ง(เท้าขวา5, เท้าซ้าย1และหัวอีก2)ขณะเดียวกันนับรวมตั้งแต่เกมแรกมาก็นับรวมได้ถึง19ครั้ง
ใครจะคิดว่าอยากเด่นอยากดังก็ได้แต่มันเป็นดีเอ็นเอที่ฝังอยู่ในสายเลือดของชายคนหนึ่งที่พิสูจน์แล้วว่าพรแสวงสำคัญกว่าพรสวรรค์ ขอให้สู้ ขอให้อย่าท้อและวันหนึ่งก็จะไปถึงฝั่งฝันได้
สองชั่วโมงหลังจบเกมได้ ด้านนอกคงมีกองเชียร์กลุ่มหนึ่งไม่รีบกลับ พวกเขาคงตั้งหน้าตั้งตารอใครบางคนออกมาขึ้นรถโค้ช
ครับ ไม่ใช่แมน ออฟ เดอะ แมตช์ประจำเกม ไม่ใช่ บรูโน่ เฟอร์นาเดส หรือ แบร์นาโด ซิลวา สองผู้เล่นที่ก็ทำหน้าท่ียิงจุดโทษสำเร็จ
คนๆนั้นคุณก็รู้ว่าใคร
"ไก่ป่า"