ฝรั่งเศส นี่แหละน่ากลัว, เดสชองป์ มองถึงแชมป์

ฝรั่งเศส นี่แหละน่ากลัว, เดสชองป์ มองถึงแชมป์
ทีมเต็งที่เข้ารอบอีกหนึ่งทีมคือ ฝรั่งเศส

เดสชองป์ ปรับแทกติกตัวรุกอีก

จาก เอมบัปเป้, ตูราม, เดมเบเล่ สลับด้วย บารโกล่า

มาเป็น เอมบัปเป,ตูรามและ กรีสมานน์

ในแบบ 4-3-3 

ไมย็อง : คุนเด้, ซาลีบา-อูปาเมกาโน่, เตโอ

ก็องเต้, ชูเอาเมนี, ราบิโอต์

เอมบัปเป้, ตูราม, กรีสมานน์

Shape การยืนของ กรีสมานน์ คือปีกขวา ตูรามหน้าเป้า

ส่วน เทเดสโกจัด 4-4-2 

กาสตีล: กาสตาญ, ฟาส-แฟรตองเกน,เตอาเต

:ปีกขวา คาร์ราสโก้, เดอ บรอยน์-โอนานา, โดกู ปีกซ้าย

:ลูกากู, โอเปนด้า

45 นาทีแรกฝรั่งเศสบุก เบลเยียมรับรอสวน

ทีมน้ำหอมครองบอลบุกเข้าหา ส่วนเบลเยียม รับในแดนรอจังหวะสวนกลับ ถ้าบิลด์ อัพ ฝรั่งเศส จะเดินเข้าเพรสทันที  

แม้สัดส่วนการบุกมากกว่า แต่เจาะไม่ได้ถนัดนัก ฟาส, แฟรตองเก้น ยังจัดระเบียบเกมรับได้ดี ไม่มีพลาดง่ายๆ พอผ่าน25 นาที เบลเยียมเริ่มโจมตี ได้นำได้เนื้อมากขึ้น มีโอกาสลุ้นประตูืจากฟรีคิกของ เดอ บรอยน์ และ จังหวะยิง คารราสโก้ ติดบล้อค

คุนเด้ โดดเด่น เหมือนปีกขวา เติมตลอด

เมื่อจังหวะบุก และกรีสมานน์ เข้าไปข้างใน โดย ซาลีบา-อูปาเมกาโน ดันเข้ามาในแดนของ เบลเยียม 

ครึ่งแรกอยู่ที่จังหวะสุดท้ายของฝรั่งเศสในการเข้าไปจบสกอร์ ส่วนเบลเยียม แทบไม่ได้โอกาสในกลับเลย

ได้ยิงแค่ครั้งเดียว!!

เกมครึ่งแรกเป็นของฝรั่งเศสสิ้นเชิง แต่ไม่ได้ประตู

60 นาที ปรับแทกติก

เมื่อเกมไม่ต่างจากครึ่งแรก โค้ชสองฝั่งเปลี่ยนตัว

เดสชองป์ ปรับก่อน ถอด ตูราม ออก ส่ง มัวนี จาก เปแอสเช ลงแทน ส่วน เทเดสโก ถอดโอเปนดา ออก

สมองกาล่า ลง ปรับมองกาลา-โอนานา เพื่อ เดอ บรอยน์ ขึ้นมาเบอร์10 ทำเกมรุกด้านบน 

ผ่านไป 80 นาที จากการคุมเกมของฝรั่งเศส ได้ยิง16 ครั้ง เข้ากรอบ2 ส่วน เบลเยียม ยิง4 ครั้งเข้ากรอบ3 ได้ลุ้นกว่า โดยเฉพาะลูกยิงของ เดอ บรอยน์ ติดเซฟ ไมย็อง 

ทีมตราไก่ได้โชค 

น.85 มัวนี ได้โอกาสพลิกบอล จากจังหวะ ก็องเต้ จ่ายในเขตโทษ ยิงบอลแป้กๆ ไปโดน แฟร์ตองเก้น เปลี่ยนทางเข้าไป เฉย!!! ฝรั่งเศสขึ้นนำช่วงสำคัญของเกม ก่อนชนะ1-0 เข้ารอบ8 ทีมสุดท้าย

นี่คืออีกหนึ่งตัวเต็งที่ฟอร์มยังไม่เต็ง แต่มี “ของ” ที่ยังปล่อยได้ไม่เต็มที่

ปัญหาของฝรั่งเศสคือจังหวะ “จบสกอร์“ ให้ได้

เกมรับ การเล่นเกม แน่นปึ้ก คุมจังหวะการเล่นได้ดี แต่ที่แดนสามนั้น สร้างโอกาสได้ แต่ไม่ได้จบสกอร์ง่ายๆ 

รอบแบ่งกลุ่มยิงไป2 ลูก จากจุดโทษ นัดเสมอโปแลนด์ และเกมแรกชนะออสเตรีย ยิงประตูตัวเอง 

คือประตูจาก โอเพ่น เพลย์ ยังไม่เกิดขึ้นเลย

1 จุดโทษ 2 own goals!!!! 

กระนั้นถ้าดูวิธีการเล่น และการโจมตีแดนสามนั้น..

ฝรั่งเศสยังคงน่ากลัวอยู่เหมือนเดิม


ที่มาของภาพ : getty images
BY : JACKIE
อดิสรณ์ พึ่งยา
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport