อังกฤษ ตกรอบแทบเต็มตัว ทว่า จู๊ด เบลลิงแฮม จักรยานอากาศสุดสวยทดเจ็บ 90+5 ปั๊มหัวใจปลุกชีพ สิงโตคำราม ตีเสมอใน 90 นาที 1-1 ก่อน แฮร์รี่ เคน โขกตัดสินแมตช์แซงทุบ สโลวาเกีย ช่วงต่อเวลา 2-1 ส่งทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" ลิ่วรอบ 8 ทีมชน สวิตเซอร์แลนด์ ในวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคมนี้
สนาม : อารีน่า เอาฟ์ชาลเก้
ศึกฟุตบอลยูโร 2024 รอบ 16 ทีมสุดท้าย คืนวันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายนที่ผ่านมา รองแชมป์เก่า "สิงโตคำราม" อังกฤษ เข้าวินที่หนึ่งกลุ่ม ซี แบบฟอร์มไม่ค่อยโสภาปะทะ สโลวาเกีย ที่เอาตัวรอดติดหนุ่งในอันดับสามที่ดีสุด
เกมครึ่งแรกถึงนาที ลูคัส ฮาราสลิน สปีดหลุดในเขตโทษยิงติดบล็อก มาร์ค เกฮี บอลเด้งชนขา ไคล์ วอล์คเกอร์ ดิ่งหาตาข่ายฝั่งตนเองยังดีเพื่อนร่วมทีมเคลียร์ทิ้งทัน
และแล้วนาที 25 ดาวิด สเตรเลช ถอยลงต่ำเก็บบอลพร้อมแทงเรียด อีวาน ชรานซ์ จับบอลในเขตโทษจิ้มสวนตัว จอร์แดน พิคฟอร์ด ตุงตาข่าย สโลวาเกีย ออกนำ 1-0
หมด 45 นาที สโลวาเกีย ขึ้นนำ อังกฤษ 1-0
ต้นครึ่งหลังนาที 51 แฮร์รี่ เคน ลงต่ำวางบอลออกซ้าย คีแรน ทริปเปียร์ จับบอลก่อนปาดหนีตัวนายทวารคู่แข่งถึง ฟิล โฟเด้น ทิ่มบอลกรอบ 6 หลาเข้าไป กรรมการเช้ควีเออาร์ชี้ล้ำหน้า สิงโตคำราม ชวดตีคืน
เวลาล่วงเลยถึงนาที 78 ฟิล โฟเด้น เปิดฟรีคิกทางซ้าย แฮร์รี่ เคน เหินตัวไร้คนประกบโขกบอลออกข้างกรอบประตูแบบไม่อยากจะเชื่อ
อีกสามนาที เดแคลน ไรซ์ ซัดนอกกรบอบอลกระดอนชนเสาซ้าย แฮร์รี่ เคน วอลเลย์ซ้ำบอลลอยข้ามคานออกหลัง
ทว่าทดเจ็บนาที 90+5 มาร์ค เกฮี โหม่งเสยลูกทุ่ม จู๊ด เบลลิงแฮม จักรยานอากาศซัดบอลกระดอนเสียบตาข่าย สิงโตคำราม ตีคืน จบ 90 นาทีเสมอกัน 1-1 ต้องต่อเวลา 30 นาที
เริ่มช่วงต่อเวลานาที 91 เอเบอเรชี่ เอเซ่ ซัดบอลสวนเด้งมาที่ อีวาน โทนี่ย์ โขกชงสะบัดให้ แฮร์รี่ เคน โหม่งบอลเข้าไปสำเร็จ สิงโตคำราม แซงนำ ก่อนจบเกม อังกฤษ ชนะต่อเวลา สโลวาเกีย 2-1 หลังเสมอใน 90 นาที 1-1 ส่งทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" ลิ่วรอบ 8 ทีมชน สวิตเซอร์แลนด์ ในวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคมนี้
รายชื่อผู้เล่นที่ลงเล่นสนาม
อังกฤษ (4-2-3-1): จอร์แดน พิคฟอร์ด,ไคล์ วอล์คเกอร์,จอห์น สโตนส์,มาร์ค เกฮี,คีแรน ทริปเปียร์ (โคล พาลเมอร์ น.66),ค็อบบี้ เมนู (เอเบอเรชี่ เอเซ่ น.84),เดแคลน ไรซ์,บูคาโย่ ซาก้า,จู๊ด เบลลิงแฮม (เอซรี่ คอนซ่า น.106),ฟิล โฟเด้น (อีวาน โทนี่ย์ น.90+4),แฮร์รี่ เคน (คอนอร์ กัลลาเกอร์ น.106)
สโลวาเกีย (4-3-3): มาร์ติน ดูบราฟก้า,ปีเตอร์ เพคาริค (ลูโบมีร์ ตุปต้า น.109),เดนิส วาฟโร,มิลาน ชคริเนียร์,ดาวิด ฮันช์โค่,ยูราย คุชก้า (มาตุช เบโร น.81),สตานิสลาฟ โลบ็อตก้า,ออนเดรย์ ดูด้า (ลาสโล่ เบเนส น.81),อีวาน ชรานซ์ (นอร์เบิร์ต เยิมเบร์ น.90+2),ลูคัส ฮาราสลิน (โทมัส ซุสลอฟ น.61),ดาวิด สเตรเลช (โรเบิร์ต โบเซนิค น.61)