ดู อิงแลนด์ ห่วย again ที่โคโญจน์

(Alter Markt = Old Market  ในเขตเมืองเก่าใกล้แม่น้ำไรน์ และเดินไม่นานก้าวจาก มหาวิหารใหญ่แห่งเมืองเคิล์น,  สวยมากครับ มีตึกตั้งแต่ยุคเรเนอซองต์เรียงราย  มีน้ำพุที่สะดุดตา และถ้าเป็นช่วงปลายปี ก็จะมีงานคริสต์มาส มาร์เก็ต ดังเลยแหล่ะ  ส่วนถ้าเป็นช่วงยูโรนี่ ใครมาเยือนต้องพุ่งเป้ามาหาความสนุก และความวุ่นวายจากคนเมาไปพร้อมๆ กันได้แถวนี้  ซึ่งอยู่ติดกับ แฟนโซน ณ Heumarkt   เรียกรวมๆ แถวนี้ ว่าย่านนัดพบ, ย่านสังสรรค์ มีเสน่ห์ที่สุดของเมืองครับผม)

เห็นแฟนสิงโตโห่ ตอบจบเกมที่รังแพะบ้า และมีการปาแก้วพลาสติก ลงสนาม ตอน แกเร็ธ เซาธ์เกต เดินปรบมือขอบคุณที่เล่นห่วย แล้วยังมาดูกัน  (เอิ่ม นายประตูใต้ ไม่ได้พูด!)   อยากจะสะกิดว่า : ไม่เห็นหรือว่า ทุกสนาม ทุกสถานีรถไฟใหญ่ ทุกกลางเมือง มีคนเอากระสอบ เอาถุงใหญ่ ไปไล่เก็บขวดเบียร์ เก็บขวดพลาสติก แก้วพลาสติกกัน  ที่รู้ๆ นี่ ถ้าเป็นขวดแก้ว เอาไปให้ตามซูปเปอร์มาร์เก็ต REWE  ได้ 8 เซนต์ ถ้าเป็นกระป๋อง หรือขวดพลาสติก 25 เซนต์ เชียวหนา

ขว้างลงไปสนาม รู้สึกรู้สากันที่ไหนหล่ะ  เพราะถ้าฟังชาวโลก คงไม่ได้เห็นการเล่นที่ แย่คงเส้นคงวาทั้ง 3 นัดในรอบแรกหรอกหนา  

และนี่คือเสียงของ ใครคนนี้ ที่ได้ตั๋วนักข่าว เข้าชมแม็ตช์ส่งท้ายรอบแรกกลุ่มซี ระหว่าง อังกฤษ - สโลวีเนีย  ที่ โคโลญจน์ สเตเดี้ยม ฮะ ;

1.ปกป้องตัวเองแบบไม่ลืมหูลืมตา

คนเรามักจะไม่ค่อยอยากให้คนอื่นวิจารณ์ แต่ (บางคน) ชอบวิจารณ์ และนินทาคนอื่น !

แต่มันไม่มีประโยชน์อะไรหรอกครับ ที่แกเร็ธ เซาธ์เกต , กัปตันแฮร์รี่ เคน หรือผู้เล่นคนไหน จะออกมาแก้ต่าง หลังผ่านเกมสโลวีเนีย  ที่ห่างชั้นกันเยอะ แบบ 0-0

นักฟุตบอลอาชีพทุกคน ต้องใช้ “เท้า” ใช้ “ผลงาน”  ตอบโต้เสียงวิจารณ์ และตลอดชีวิตการค้าแข้ง ต้องเผชิญเรื่องราวแบบนี้กัน ยิ่งในยุคโซเชี่ยลแบบนี้ ชนะหลายลูกยังมีคนหาจุดตำหนิได้  (อย่าง ลิเวอร์พูล ในช่วง เยอร์เก้น คล็อปป์ คุม)

การจะห้ามอดีตนักเตะ อย่าง แกรี่ ลินิเกอร์, อลัน เชียเรอร์, แกรี่ เนวิลล์ ใครต่อใคร วิจารณ์นั้น ไม่ได้หรอก … ไม่ใช่ว่า อดีตสตาร์ทีมชาติอังกฤษ จะวิจารณ์ถูกใจทุกประเด็น  แต่มันเป็นหน้าที่ของเขาครับ

พวกคุณก็ทำหน้าที่กันไปสิ

ตอนนี้ คุณอาจจะพึงพอใจว่า นี่งัย job done  เข้ารอบเป็นที่ 1 ในสาย และก็มีคลีนชีต เพิ่มมาอีกนัด เพราะสโลวีเนีย เล่นเอาแต่รับ มีเข้าทำตรงกรอบแค่ต้นเกมซึ่งไม่ได้ลุ้นอะไร ซึ่งก็ว่าไม่ได้นะครับ เพราะสุดท้าย มันก็ทำให้พวกเขาได้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายด้วย

การได้เป็นแชมป์กลุ่ม ซี  ทำให้หนทางในรอบน็อคเอ้าต์ของสิงโต ดูสะดวกโยธินไปด้วย  ไม่ต้องเจอกับพวกแข็งโป๊กอย่าง เยอรมัน, สเปน, ฝรั่งเศส หรืออาจจะเป็นโปรตุเกส ก่อนนัดชิงฯ ที่เบอร์ลิน

แต่ชาวโลกนะ ไม่ใช่แค่ อดีตนักเตะอังกฤษเอง เค้ามองว่า ถ้าเล่นกันช้า เล่นกันสะเปะสะปะ อย่างทั้ง 3 นัดในรอบแรก อิงแลนด์เจอกับใคร ก็ไม่น่าจะไปไกล

กัปตันเคน พูดหลังจบรอบแรกว่า ปกติ ถ้าดูจากทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งก่อน จะเห็นว่า อังกฤษเล่นดีขึ้นในรอบน็อคเอ้าต์ …

นั่นเป็นแค่คำพูดครับ แต่มันใช่แค่กลางที่เปลี่ยนมาใช้ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ก็ล้มเหลวจนทนใช้แค่ 45 นาที ค็อบบี้ เมนู อาจจะทำได้ดีกว่า แต่ก็เปลี่ยนโลกไม่ได้

มันมากกว่า แบ๊คซ้ายก็ไม่ใช่ กลางก็ไม่รู้จะมั่นใจใครดี เกมรุกริมเส้นไม่หวือหวา  ไม่มีมูฟเม้นท์ เกมทีมชาติเล่นช้ากันได้ครับ และหลายทีมประสบความสำเร็จก็อาจจะเป็นเช่นนั้น — แต่ถ้าเล่นช้า แล้วการเข้าทำช้าด้วย มันจะเจาะได้งัย  จังหวะเคลื่อนที่เจ๋งสุด ก็คือลูกล้ำหน้า ไรซ์ แปะบอลเร็ว ให้ โฟเด้น วิ่ง (ล้ำจังหวะนี้ชัดเจน) มาเอาบอลผ่านป้อนให้ บูกาโย่ ซาก้า ชาร์จเผาขน  ทำไมไม่เล่นกันดุดันแบบนี้ให้ตลอด

บางทีมันก็งงงงนะ  จอห์น สโตนส์ สามารถขึ้นมาช่วยเชื่อมเกมในแดนกลางได้ เมื่อถึงเวลาครองบอล  ยิ่งครองบอลมากถึง 71 % ในเกมกับสโลวีเนีย แบบนี้ กลายเป็นนักเตะดาดๆ  เล่นแค่เซฟตัวเอง จ่ายบอลขวางในแดนหลัง ทั้งที่ ไม่มีการคุกคามใดๆ จากคู่แข่ง

 2. จู๊ด ไม่ใช่ จู๊ด

สถิติในเกมเจอสโลวีเนีย ของสตาร์ No.1 อิงแลนด์ นาทีนี้  คือ จังหวะยิง คือ ศูนย์, จังหวะสร้างสรรค์ คือ ศูนย์,  แท็คเกิ้ลสำเร็จ คือ ศูนย์,  ผ่านบอลเข้าแดนบน (ไฟนั่ล เธิร์ด) สำเร็จ คือ ศูนย์  และเสียบอลถึง 16 ครั้ง มากที่สุดในทีม

 มันเป็นเพราะอะไร ?  หลังจากเปิดตัวกับเซอร์เบียในฟอร์มที่ไฉไล แตกต่างจากเพื่อนๆ ในทีม  จากนั้น 2 นัดต่อมา เล่นแย่มาก

เกมโคนม นั้น ถ้าเอาที่ฟอร์มการเล่นนะ สามารถเปลี่ยนได้หมดเลย เดกแคลน ไรซ์ ก็แย่ จู๊ด ก็แย่ แต่ เทรนต์ คือเป้า,  เป้าตั้งแต่ก่อนแข่งแล้ว

ในช่วงต้นเกมกับ สโลวีเนีย ที่ใครคนนี้พยายามจับจ้องว่า ไอ้การเปลี่ยนทีมแค่เอา คอเนอร์ กัลลาเกอร์ แทน เทรนต์ ในแดนกลาง  ไม่ได้เปลี่ยนปีก เปลี่ยนตรงอื่น มันจะเวิร์คสักแค่ไหนเชียว  จู่ๆ ก็เห็น จู๊ด ผ่านบอลจากริมเส้น เข้ากลางไปให้ผู้เล่นสโลวีเนียซะงั้น ..

ยังงัย รอบ 16 ทีมสุดท้าย เจอใคร จู๊ดก็ต้องเล่น แฮร์รี่ เคน ก็ต้องเล่น,  จังหวะเสียวที่สุดในเกมกับสโลวีเนีย ของกัปตัน น่าจะพุ่งตัวเข้าชาร์จ ลูกวาง คีแรน ทริพเพอร์ ดันแหย่เท้าไม่ถึงครับ  ส่วนไอ้ที่ซัดนอกเขตไปตรง แยน โอบลัค ยอดนายทวารนั่นไม่นับได้ไหม  และทั้ง 3 จังหวะยิงตรงกรอบของอิงแลนด์  ตามมาด้วยลูกฟรีคิก ฟิล โฟเด้น และปลายเกม ตัวสำรองที่หลายคนเชียร์ โคล พาลเมอร์  ที่ลงมาแล้วดูมีการสร้างสรรค์อยู่นะ มีลูกผ่านที่ดูฉลาด  ว่าไปแล้วก็เป็นลูกง่ายสำหรับ โอบลัค หมดเลย!

มองดูตัวดีๆ ของ อิงแลนด์ แล้ว บางทีก็คิดเล่นๆ น่าจะจัดแบบนี้ดูนะ ;

กอร์ดอน        เคน        พาลเมอร์

โฟเด้น            จู๊ด

ไรซ์

ซาก้า          เกฮี         สโตนส์           วอล์คเกอร์

คือมองว่า ในเมื่อรอบแรก ยิงได้แค่ 2 ประตู ปัญหาในเกมรุกมันเห็นๆ กัน อยู่ ต้องมีการผ่าใหญ่แล้วหล่ะครับ

ในตำแหน่งแบ๊คซ้าย เมื่อ ลุค ชอว์ เล่นไม่ได้ ใครคนนี้มองว่า ทริพเพียร์ เล่นพื้นๆ ไม่ได้ก่อประโยชน์อะไรในเกมรุก งั้นต้องขอให้ ซาก้า ซึ่งเกมสโลวีเนีย ก็ไม่ได้เป็นซาก้า ในชุดอาร์เซน่อล หาพื้นที่ว่างในการเจาะไม่ค่อยได้ ไปเล่นแบ๊คซ้ายแก้ขัดหน่อย  *เคยเห็น มิเกล อาร์เตต้า ใช้ ซาก้า เล่นแบ๊คซ้าย กับตามาแล้วนะครับ ไม่ใช่ตำแหน่งที่ดีที่สุดของเค้าหรอก แต่ตอนนี้ อิงแลนด์ ต้องการแบ๊คเท้าซ้ายงัย !

หมากนี้เกมรุก สโตนส์ ขึ้นไปช่วยสร้างเกม  วอล์คเกอร์ ไม่ต้องขึ้นหรอก เกมสโลวีเนีย ก็ไม่เห็นเติมเลย ไม่รู้โค้ชบอกหรือเปล่า แต่เกมรุกอิงแลนด์ โดยเฉพาะเจอกับทีมอ่อนกว่า ยืนหลัง 2 คนกับ มาร์ก เกฮี พอแล้ว

แต่นี่คือความคิดแบบเรา แบบแฟนบอลที่อยากเห็น อิงแลนด์ เล่นมีสไตล์ เล่นสนุกงัยหล่ะครับ ไม่ใช่คนไทยต้องบ่นว่า “เสียเวลาตื่นมาดู ชิบ ……..”

3.ชอบมาก เปลี่ยน แอนโธนี่ กอร์ดอน นาที 89

ผมว่า เซาธ์เกต สับสนกับการเปลี่ยนตัว และแก้เกมมากพอดูนะ

กับเซอร์เบีย ครึ่งหลังที่เสียบอลง่าย เล่นพลาดเยอะ เลือกใช้สำรอง  กัลลาเกอร์ ลูกรัก , จาร์รอด โบเว่น และ เมนู ไม่ได้คิดแก้เกมรุกกราบซ้าย 

กับเดนมาร์ก นอกจากเอาเทรนต์ ออกต้นครึ่งหลังแล้วแทนที่ด้วย กัลลาเกอร์ ต่อมาทำฮือฮาเปลี่ยนสามกองหน้าออกพร้อมกัน  แทนที่โดย โบเว่น - โอลลี่ วัตกิ้นส์ - เอเบริชี่ เอเซ่  ซึ่งไม่มีใครเล่นดีเลย การเลือกตัวเปลี่ยนไม่ตอบโจทย์ และไม่โดนใจแฟน

กับสโลวีเนีย ถูกใจคนหมู่มากอยู่บ้าง เอา เมนู ลงมาตอนพักครึ่ง แล้วตามด้วย พาลเมอร์ (นาที 71)  , เทรนต์ (นาที 84)

และชอบมากสุด ก็คือ การส่ง แอนโธนี่ กอร์ดอน ที่ใครต่อใครอยากเห็นการใช้ความเร็วริมเส้นฝั่งซ้าย  ไหนตัวอื่นไม่กระชาก ลองคนนี้หน่อยมั้ย

แต่จะหมดเวลาอยู่แล้ว แอนโธนี่ ที่ได้สัมผัสเกมยูโรเสียที คงเปลี่ยนโลก ได้หรอก !

ลิตเติ้ลโจ