อังกฤษ ลงเล่นเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มแบบกระชับมิตรกับ สโลวีเนีย ก่อนเสมอกันไปแบบไม่มีสกอร์ และนี่คือสิ่งที่ผมอยากจะบอก
1.ตอนเห็นรายชื่อผู้เล่น 11 ตัวจริงสิงโตคำราม ผมก็หัวเราะออกมาพลางอุทานในสำเนียงค๊อกนี่ย์ว่า...เยอร์ แด๊ด เด๊ด
เมื่อ แกเร็ธ เซาธ์เกต ปรับตำแหน่งเดียวในแดนกลางด้วยการส่ง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ลงเล่นแทน เทรนต์ เอเอ
ว่าแล้วนึกถึงคำพูดของ พอล สโคลส์
"เราจะหมกมุ่นกับเรื่องแรงงานไปถึงไหน ในเมื่อเรามีมันสมอง"
2.พลพรรคสิงโตคำรามยังคงทำตัวน่าเบื่อเหมือนเดิมครับ เพราะต้องไม่ลืมว่าเวลาสไลด์หนอน กุนซือของพวกเขายังใส่ถุงยางอนามัยถึง 2 ชั้น
สปีดเกมเชื่องช้าระดับเต่ากัดยาง ต่อบอลกันขาดๆ เกินๆ กว่าจะมีโอกาสจบสกอร์ครั้งแรก ปาเข้าไปนาทีที่ 30 คิดเอา
เข้าใจๆ ว่าเล่นแบบเน้นผล มันต้องรัดกุม ระมัดระวัง และปลอดภัยไว้ก่อน มันเลยเหมือนนั่งจ้องฝาบ้านเล่นตอนตี 2 เป็นเกมที่ 3 ติดต่อกัน
3. คอร์เนอร์ กัลลาเกอร์ ที่ได้ลงตัวจริง แต่ไฉนกลับทำเหมือนไม่ได้ลงสนามซะอย่างนั้น
ครึ่งหลัง แกเร็ธ เซาธ์เกต จึงจำเป็นต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องและสมควรเสียที
นั่นคือการส่ง ค๊อบบี้ เมนู ลงมาแทน
ทันใดเกมตรงกลางของ อังกฤษ ก็สมดุลย์ ไหลลื่นและมีชีวิตชีวาขึ้นเยอะเลย เพราะ "ไอ้หนู" ลงมาทำหน้าที่เหมือนเป็น "ตัวเชื่อม" ด้วยการเล่นง่ายๆ เช่นเดียวกับรู้ว่าจังหวะไหนควรเล่นแบบใดทำให้บอลเคลื่อนที่ตลอดเวลา
อันนี้ว่ากันตามสิ่งที่เห็นนะครับ ดีก็ว่าดี แย่ก็ว่าแย่ อย่าเพิ่งดิ้นพล่านมุรนทุราย
4. เท่านั้นไม่พอ
เมื่อ โคล พาลเมอร์ ถูกส่งลงมาแทน บูกาโย่ ซาก้า ในตำแหน่ง "หน้าขวา" อีกคน เกมรุกของอังกฤษก็มีความวูบวาบมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ส่วนดาวเตะที่โชว์ฟอร์มน่าผิดหวังจนสมควรถูกเปลี่ยนตัวออกคือ จู๊ด เบลลิงแฮม
สิ่งที่ผมอยากเห็นคือกระชาก "ไอ้จู๊ด" ออกแล้วให้
แอนโธนี่ย์ กอร์ดอน ลงมาเป็น "หน้าซ้าย" โดยขยับ ฟิล โฟเด้น เข้ามาเป็นหมายเลข 10
ทว่าคนที่ถูกถอดออกกลับเป็นดาวเตะทรง เอ จาก แมนฯ ซิตี้ ซะอย่างนั้น สุดยอดไปเลยครับพี่เกต
5. หากยึดฟอร์มการเล่นเกมล่าสุดเป็นมาตรฐาน
ขอเรียนตามตรงว่าเกมต่อไปในรอบ 16 ทีมสุดท้ายของสิงโตคำราม
ค๊อบบี้ เมนู กับ โคล พาลเมอร์ ควรได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงแล้วนะครับ
หลังจากที่ผู้จัดการทีมมัวแต่งมโข่งมานาน
มึงควรจะตาสว่างได้แล้วครับ อส.
-บอ.บู๋-