ทีมชาติ อังกฤษ ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมของศึก ยูโร 2024 ในฐานะแชมป์กลุ่มซีตามคาด แต่เป็นไปด้วยฟอร์มที่แสนจืดชืดเมื่อพวกเขาทำได้แค่เสมอกับ สโลวีเนีย 0-0 ในเกมที่โคโลญจน์เมื่อวันอังคารที่ 25 มิ.ย.โดยผลเสมอเกมนี้ทำให้ สโลวีเนีย ซึ่งเล่นเกมตั้งรับแบบสุดชีวิตสร้างประวัติศาสตร์ผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์เป็นครั้งแรกได้สำเร็จ ขณะที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทีม สิงโตคำราม จะต้องโดนนักวิจารณ์สวดยับอีกตามเคยโทษฐานที่ยังโชว์ผลงานได้อย่างน่าผิดหวัง
1. ไม่พลิกโผสิงโตดร็อปเทรนต์
แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ทีมชาติ อังกฤษ ปรับทัพตำแหน่งเดียวตามคาดโดยเลือกดร็อป เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็คขวาทีม ลิเวอร์พูล ออกจากแผงมิดฟิลด์ และส่ง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ดาวเตะทีม เชลซี ออกสตาร์ตแทนเป็นเกมแรกของทัวร์นาเมนต์
อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะที่จะเล่นเป็นกองกลางแม้สถิติในเกมเสมอกับ เดนมาร์ก 1-1 เขาจะมีผลงานผ่านบอลเข้าพื้นที่สุดท้ายมากที่สุดห้าครั้ง และสร้างโอกาสได้มากที่สุดสามครั้ง แต่ถูกมองว่าเล่นเกมรับคู่กับ เดแคลน ไรซ์ ได้แย่
อย่างไรก็ดี ลุค ชอว์ ซึ่งกลับมาซ้อมได้แล้วมีชื่อนั่งข้างสนามอีกหนแม้ เซาธ์เกต จะยืนยันในการแถลงข่าวเมื่อวันก่อนว่าแบ็คซ้ายทีม แมนฯ ยูไนเต็ด จะยังไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
2. สโลวีเนียโผเดิมทุกตำแหน่ง
สโลวีเนีย ซึ่งมีสองแต้มจากสองเกมยึดทีมชุดเดิมทั้ง 11 ตำแหน่งจากเกมเสมอกับ เซอร์เบีย 1-1 โดยพวกเขาเสียประตูตีเสมอให้กับคู่แข่งอย่างน่าเสียดายในช่วงทดเวลา
จากโผดังกล่าว หมายความว่ากุนซือ มัตยาซ เค็ก ยังวางใจใช้งาน เบนจามิน เซสโก้ กองหน้าคนสำคัญลงล่าตาข่ายแม้เขาจะมีปัญหาเจ็บต้นขา ขณะที่นายทวารกัปตันทีม ยาน โอบลัค ยังคงได้เฝ้าเสาแม้จะพลาดซ้อมในช่วงสุดสัปดาห์
จากผลงานในสองเกมแรก เท่ากับว่า สโลวีเนีย สามารถเข้ารอบในฐานะทีมอันดับสามที่ดีที่สุดได้หากพวกเขาเสมอกับ อังกฤษ ซึ่งผ่านเข้ารอบไปแล้วโดยทีมของ เซาธ์เกต หวังคว้าผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเพื่อการันตีการเป็นแชมป์กลุ่ม
3. เบลลิ่งแฮม ดับสนิท
จู๊ด เบลลิ่งแฮม สร้างชื่อเป็นฮีโร่ของ อังกฤษ ในเกมที่เขาโขกพังประตูทีมคว่ำ เซอร์เบีย 1-0 ในนัดแรกของทัวร์นาเมนต์
หลังเปิดตัวได้อย่างน่าฮือฮาทำให้เชื่อกันว่าสตาร์ทีม เรอัล มาดริด จะฉายฟอร์มได้อย่างระบือลือลั่นบนผืนแผ่นดินเมืองไส้กรอก แต่เกมกับ เดนมาร์ก ซึ่งทีมเมืองผู้ดีโดนไล่ตีเสมอ 1-1 ดาวเตะวัย 20 ปีไม่อาจสร้างชื่ออย่างต่อเนื่องได้ และเป็นเกมที่ทีมของ เซาธ์เกต ถูกวิจารณ์ยับเนื่องจากฟอร์มด้อยกว่าทีมโคนมในทุกๆด้าน
กระทั่งล่าสุดนัดฟาดเกือกกับ สโลวีเนีย เบลลิ่งแฮม ไม่อาจเป็นที่พึ่งของทีม สิงโตคำราม ได้เช่นกันโดยหลังจากเกมในครึ่งแรกจบลงเขามีสถิติที่เลวร้ายหลายชิ้นดังนี้
0/2 ชนะการดวล
สัมผัสบอลในสนามน้อยที่สุด
0 ยิงประตู
0 สร้างโอกาส
0 ชนะการดวลลูกกลางอากาศ
0 เข้าปะทะ
0 แย่งบอล
0 เลี้ยงบอลสำเร็จ
เท่านั้นไม่พอ หลังจบ 90 นาที เบลลิ่งแฮม ยังคงเล่นไม่ออกเช่นเดิมจากสถิติที่ถูกตีแผ่ออกมา
2/9 ชนะการดวล
69 ผ่านบอล
0 สร้างโอกาส
0 ยิงประตู
1 เลี้ยงบอลสำเร็จ
16 เสียการครองบอล
0 เข้าปะทะ
4. แทคติกที่สับสนอลหม่าน
หลังกระซวกประตู สโลวีเนีย ในครึ่งแรกไม่ได้ นายใหญ่ ทรี ไลอ้อนส์ ตัดสินใจเปลี่ยนตัวสำรองทันทีด้วยการส่ง ค็อบบี้ เมนู ลงไปเล่นแทน กัลลาเกอร์ อย่างน่าฉงน
ด้วยเหตุนี้ หากจะมองกันว่าสตาร์ทีม เชลซี ไม่ตอบโจทย์ มันก็หมายความว่า เซาธ์เกต ตัดสินใจพลาดที่ส่งกองกลางค่าย สแตมฟอร์ด บริดจ์ ออกสตาร์ต และที่สำคัญเขาไม่ใช่ตัวเลือกที่นักวิจารณ์หรือว่าแฟนบอลต้องการให้ถูกส่งลงเล่นเนื่องจากทุกคนกระหายที่จะเห็น แอนโธนี่ กอร์ดอน ลงไปปั้นเกมทางกราบซ้ายในฐานะ 11 คนแรก
อย่างไรก็ดี เซาธ์เกต ยังเย็นใจ และเลือกส่ง โคล พาลเมอร์ ลงเล่นก่อนในช่วง 20 นาทีสุดท้ายแทน บูคาโย่ ซาก้า ซึ่งเป็นอีกรายที่สร้างชื่อไม่ได้ในรายการนี้
กระทั่งช่วงห้านาทีสุดท้าย นายใหญ่ทีม สิงโตคำราม สร้างเซอร์ไพรส์จนได้เมื่อส่ง อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ที่เขาดร็อปออกจากทีมตัวจริงลงเล่นเป็นตัวสำรองแทน คีแรน ทริปเปียร์
ต่อประเด็นนี้ อาจเป็นไปได้ว่าแบ็คซ้ายจำเป็นทีม นิวคาสเซิ่ล เริ่มออกอาการอ่อนล้า แถม ชอว์ ยังไม่พร้อมลงสนาม เซาธ์เกต จึงเลือกส่ง อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ลงเล่นเป็นแบ็คขวา และย้าย ไคล์ วอล์คเกอร์ ไปเล่นเป็นแบ็คซ้ายแม้เขาจะมีตัวเลือกอย่าง โจ โกเมซ หรือว่า เอซรี่ คอนซ่า นั่งรออยู่เช่นกัน
จนในที่สุด กอร์ดอน ก็ได้ลงไปลากเลื้อยทางซ้ายแทน โฟเด้น ขณะที่เหลือเวลาอีกอึดใจเดียวซึ่งแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ดาวเตะทีม สาลิกาดง จะสร้างผลกระทบได้ในช่วงเวลาที่น้อยนิดขนาดนั้น
5. เมนู - พาลเมอร์ การันตีตัวจริง?
ถึงตอนนี้ อังกฤษ ไม่แพ้เกม ยูโร รอบแบ่งกลุ่มนาน 14 นัดติดต่อกันแล้ว (ชนะ 8 เสมอ 6) โดยหนสุดท้ายที่พวกเขาปราชัยเป็นเกมแพ้ ฝรั่งเศส 2-1 ในนัดแรกของ ยูโร 2004
เท่านั้นไม่พอ หากไม่นับรวมการดวลลูกโทษตัดสิน ทีม สิงโตคำราม แพ้เกม ยูโร แค่นัดเดียวเท่านั้นจาก 21 นัด (ชนะ 11 เสมอ 9 แพ้ 1)
อย่างไรก็ดี มันไม่มีประโยชน์ที่จะมาอ้างสถิติที่สวยหรูตราบที่พวกเขายังไปไม่ถึงดวงดาว ยังไม่อาจคว้าแชมป์มาครองได้
ขณะเดียวกัน หลังผ่านสามเกมแรกของ ยูโร 2024 เซาธ์เกต น่าจะเห็นข้อผิดพลาดของตัวเองแล้วว่าสมควรปรับเปลี่ยนอะไรสำหรับการพาทีมลงเล่นในรอบน็อกเอาต์
ที่แน่ๆ หลังส่ง อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ลงเล่นสองเกมแรกในฐานะมิดฟิลด์แล้วไม่เวิร์ก เซาธ์เกต น่าจะเลิกใช้งานดาวเตะทีม ลิเวอร์พูล ในตำแหน่งดังกล่าวอย่างถาวรแล้วหลังเขาดร็อปแบ็คขวาค่าย แอนฟิลด์ ออกจากโผตัวจริงในเกมเสมอกับ สโลวีเนีย
ขณะเดียวกัน แม้จะส่ง กัลลาเกอร์ ลงเล่นแทน แต่หลังจากดาวเตะทีม สิงห์บลูส์ โดนเปลี่ยนออกในครึ่งหลัง มันเหมือนเป็นการฟ้องว่าเขาจะไม่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอีกรายในรอบหน้า
และหากไม่ผิดคาด พาลเมอร์ น่าจะได้ออกสตาร์ตเป็น 11 คนแรกในเกมรอบน็อกเอาต์หลังจากเขาร่ายลีลาได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจในเกมประเดิมสนามของเขาในรายการนี้
พร้อมกันนี้ เมนู ซึ่งเล่นได้ดีเช่นกันก็ส่อแววได้ลงบู๊เป็นตัวจริงอีกรายในเกมหน้าหากว่า เซาธ์เกต จะไม่เลิกยึดติดกับโผชุดเดิมซึ่งถูกพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่ดีพอที่จะทำให้ทีมคว้าชัยชนะอย่างมีสไตล์ได้เลย