มัตเตีย ซัคคานญี่ ลงสำรองมาสวมบทฮีโร่ ยิงให้ อิตาลี ตีเสมอ โครเอเชีย 1-1 ช่วงทดเจ็บ เมื่อคืนวันจันทร์ คว้าตั๋วเข้ารอบน็อกเอาต์ศึก ยูโร 2024 ตามหลัง สเปน ที่เป็นแชมป์กลุ่ม บี ส่วน "ตาหมากรุก" ลุ้นเหนื่อยกับการเข้ารอบฐานะหนึ่งในทีมอันดับสามที่ผลงานดีสุด
ศึกฟุตบอล ยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี นัดสุดท้าย ระหว่าง โครเอเชีย พบ อิตาลี ที่สนาม ไลป์ซิก สเตเดี้ยม เมื่อวันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน 2567
โครเอเชีย เริ่มต้นเกมได้ดี และนาทีที่ 5 เกือบได้ประตูจากลูกยิงไกลอันทรงพลังของ ลูก้า ซูชิช ที่ทำเอา จานลุยจิ ดอนนารุมม่า นายทวารอิตาลี ต้องออกแรงพุ่งปัดบอลออกหลัง
หลังจากนั้น อิตาลี เริ่มตั้งหลักได้ และช่วงนาทีที่ 21 มีลุ้นประตูสองครั้งติดจาก มาเตโอ เรเตกี
นาทีที่ 27 อิตาลี น่าได้ประตูเหลือเกิน จากจังหวะที่ อเลสซานโดร บาสโตนี่ ได้โขกเน้นๆ แต่ไม่ผ่านการป้องกันของ โดมินิค ลิวาโควิช นายด่านโครเอเชีย ที่ปัดบอลออกหลังไปได้
จบครึ่งแรก โครเอเชีย เสมอ อิตาลี 0-0
นาทีที่ 53 โครเอเชีย ได้ลูกจุดโทษ จากการทำแฮนด์บอลของ ดาวิเด้ ฟรัตเตซี่ กองกลางอิตาลี ทว่า ลูก้า โมดริช ยิงไปติดเซฟ ดอนนารุมม่า
อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นไม่ถึงนาทีทัพลูกหนัง "ตาหมากรุก" ขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะแรกที่ อันเต้ บูดิมีร์ เข้าชาร์จระยะไม่กี่หลา บอลติดเซฟ ดอนนารุมม่า มาเข้าทาง โมดริช ตามซ้ำเต็มแรง ส่งบอลเข้าตุงตาข่าย ถือเป็นการแก้ตัวที่ยอดเยี่ยมสำหรับ ดาวเตะจอมเก๋าจาก เรอัล มาดริด วัย 38 ปี
นาทีที่ 61 อิตาลี เกือบตีเสมอได้ จากจังหวะที่ บาสโตนี่ ได้โขกเต็มศีรษะ แต่บอลข้ามคานไปนิดเดียว
หลังจากนั้นทัพ "อัซซูร์รี่" เปิดเกมรุกอย่างหนัก หวังทำประตูตีเสมอให้ได้ แต่ก็ได้แค่เฉียดไปเฉียดมา
แต่แล้วในนาทีที่ 90+8 ซึ่งเป็นนาทีสุดท้ายของช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่ ที่เติมเกมรุกขึ้นมา ผ่านบอลให้ มัตเตีย ซัคคานญี่ ตัวสำรอง ยิงเล่นทางเน้นๆ ส่งบอลโค้งๆ เสียบมุมบนอย่างสุดสวย ช่วย อิตาตี ตีเสมอ โครเอเชีย 1-1 และหลังจากนั้นผู้ตัดสิน แดนนี่ มักเกลี จากเนเธอร์แลนด์ ก็เป่านกหวีดจบเกมทันที
สำหรับผลการแข่งขันอีกคู่ สเปน เชือด แอลเบเนีย 1-0 ซึ่งนั่นทำให้ อิตาลี แชมป์เก่า จบอันดับสอง คว้าตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ตาม สเปน ในฐานะรองแชมป์กลุ่ม บี ส่วน โครเอเชีย ที่ขึ้นมาอยู่อันดับสาม รอลุ้นเข้ารอบฐานะหนึ่งในทีมอันดับสามที่ผลงานดีสุด
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม
โครเอเชีย (4-2-3-1) : โดมินิค ลิวาโควิช - โยซิป สตานิชิช, โยซิป ชูตาโล่, มาริน ปอนกราชิช, ยอชโก้ กวาร์ดิโอล - ลูก้า โมดริช (กัปตันทีม), มาร์เซโล่ โบรโซวิช, มาเตโอ โควาชิช - ลูก้า ซูชิช, มาริโอ ปาชาลิช - อันเดร ครามาริช
อิตาลี (4-3-3) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า (กัปตันทีม) - โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, อเลสซานโดร บาสโตนี่, ริคคาร์โด้ คาลาฟิออรี่, มัตเตโอ ดาร์เมียน - นิโคโล่ บาเรลล่า, จอร์จินโญ่ - จาโคโม่ ราสปาโดรี่, ลอเรนโซ่ เปลเลกรินี่, เฟเดริโก้ ดิมาร์โก - มาเตโอ เรเตกี