นี่หรือเต็งจ๋า?! 5 ประเด็น อังกฤษ ฟอร์มร่อแร่แค่เจ๊า เดนมาร์ก

นี่หรือเต็งจ๋า?! 5 ประเด็น อังกฤษ ฟอร์มร่อแร่แค่เจ๊า เดนมาร์ก
ทีมชาติ อังกฤษ ในกำมือของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ยังสร้างความผิดหวังให้กับแฟนบอลอย่างไม่หยุดหย่อนถึงฟอร์มการเล่นที่ไม่เอาอ่าว แม้จะคว้าหนึ่งแต้มมาจาก เดนมาร์ก ได้ด้วยผลเสมอ 1-1 ของเกม ยูโร 2024 รอบแบ่งกลุ่มนัดสองเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 20 มิ.ย. แต่ผลงานของนักเตะทุกรายขี้เหร่ไม่มีชิ้นดีทั้งๆที่พวกเขาถูกยกให้เป็นทีมเต็งแชมป์ของทัวร์นาเมนต์แม้แน่นอนว่า ทรี ไลอ้อนส์ ยังเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม ซี แต่คำถามคือพวกเขาจะไปได้ไกลแค่ไหนหากผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ซึ่งบอกได้เลยว่า เสือ สิงห์ กระทิง แรด ที่รออยู่ล้วนน่าเกรงขามกว่าทั้ง เซอร์เบีย และ เดนมาร์ก หลายเท่า

1. โคนม ปรับหมากรายเดียว

เดนมาร์ก ซึ่งเสมอกับ สโลวีเนีย 1-1 ในเกมออกสตาร์ตคงทีมชุดเดิมเอาไว้แทบทุกตำแหน่งยกเว้นวิงแบ็คฝั่งขวารายเดียวที่มีการปรับเปลี่ยน

ทีมเมืองโคนมตัดสินใจใช้งาน โยอาคิม เมห์เล่ ลงเล่นเป็น 11 คนแรกแทน อเล็กซานเดอร์ บาห์ นอกนั้นล้วนรักษาตำแหน่งของตัวเองเอาไว้ได้ทั้งหมด

ขณะเดียวกัน เดนมาร์ค มีนักเตะที่ค้าเกือกใน พรีเมียร์ลีก ลงเล่นเป็นตัวจริงเกมนี้รวมห้ารายทั้ง ยานนิค เวสเตอร์การ์ด (เลสเตอร์) , โยอาคิม อันเดอร์เซ่น (พาเลซ) , ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบียร์ (สเปอร์ส) และ คริสเตียน เอริคเซ่น กับ ราสมุส ฮอยลุนด์ (แมนฯ ยูไนเต็ด)

อย่างไรก็ดี ทีมของกุนซือ  แคสเปอร์ ฮูลมานด์ ไม่มี โธมัส เดลานีย์ กองกลางที่ลงเล่นเกมแรกในฐานะตัวสำรองนั่งอยู่ในซุ้มข้างสนามเนื่องจากมีอาการป่วย แต่เชื่อว่าเขาจะหายทันมีส่วนร่วมในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มบู๊กับ เซอร์เบีย

2.เซาธ์เกต ไม่สนโลกใช้โผเดิมลงบู๊

แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ทีมชาติ อังกฤษ ยังส่ง 11 นักเตะชุดเดิมลงสนามเป็นนัดที่สองอย่างที่สื่อเมืองผู้ดีระบุออกมาก่อนเกมไม่นานแม้เขาจะถูกโจมตีไม่น้อยที่เลือกใช้งาน และวางตำแหน่งนักเตะอย่างไม่เข้าท่าในเกมชนะ เซอร์เบีย แบบจืดชืด 1-0

กุนซือ ทรี ไลอ้อนส์ ยืนยันว่าต้องการความต่อเนื่อง และตัดสินใจส่ง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ลงเล่นเป็นมิดฟิลด์คู่กับ เดแคลน ไรซ์ แม้จะเป็นที่มองกันว่าดาวเตะ ลิเวอร์พูล ไม่เหมาะกับบทบาทนี้ ขณะที่ ฟิล โฟเด้น ที่เล่นไม่ออกในฐานะปีกซ้ายยังถูกจัดวางให้ทำหน้าที่เดิมต่อไป

อย่างไรก็ดี ทีมเต็งแชมป์ยังคงไม่มี ลุค ชอว์ แบ็คขวาคนสำคัญที่ลงซ้อมกับทีมไม่ได้ ทำให้ คีแรน ทริปเปียร์ ได้ลงเล่นเช่นเดิมโดยการลงสนามให้แผ่นดินเกิดเป็นเกมที่ 50 ทำให้ขุนพลทีม นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เป็นนักเตะทีม สิงโตคำราม (ไม่นับนายทวาร)  อายุมากที่สุดเป็นอันดับสามที่ติดธงครบครึ่งร้อยนัดต่อจาก สแตนลีย์ แม็ตธิว (41 ปี 301 วัน) และ เท็ดดี้ เชอริ่งแฮม (36 ปี 74 วัน)

นอกจากนี้ จอร์แดน พิคฟอร์ด นายทวารมือหนึ่งสร้างสถิติเฝ้าเสาในรายการใหญ่ให้ทีมชาติมากที่สุดเป็นนัดที่ 21 เหนือกว่า ปีเตอร์ ชิลตัน เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

3.เคน นับหนึ่ง แต่สิงโตฟอร์มห่วย

แฮร์รี่ เคน กองหน้าตัวความหวังสูงสุดของ อังกฤษ ประเดิมประตูแรกของตัวเองในศึก ยูโร 2024 เป็นผลสำเร็จหลังจาก วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น แบ็คซ้าย เดนมาร์ก ก่อความผิดพลาดอย่างไม่น่าเชื่อกระทั่งเปิดโอกาสให้ดาวยิงทีม บาเยิร์น มิวนิค ได้ลูกจ่ายสับไกพา สิงโตคำราม ทะยานนำ 1-0 ในนาทีที่ 18 

หลังคลำเป้าได้  ทีมของ เซาธ์เกต เล่นเหมือนนัดแรกไม่มีผิดโดยหวังรักษาสกอร์ตามสไตล์จนส่งผลให้ทีม โคนม เดินหน้ากันได้ตามสะดวก กระทั่ง มอร์เทน ฮุลมานด์ โชว์ฟอร์มส่องไกลตุงตาข่ายอย่างยอดเยี่ยมเปลี่ยนสกอร์เป็น 1-1 จนได้ในนาทีที่ 34

อย่างไรก็ดี จากผลงานของ เคน ทำให้เขาเป็นนักเตะอิงลิชที่พังประตูได้มากที่สุดในสองรายการใหญ่เป็นเม็ดที่ 13 แล้ว (ฟุตบอลโลก 8 , ฟุตบอลยูโร 5)

ถึงกระนั้น หากนับเฉพาะเกม ยูโร เคน ยังเป็นรองอดีตดาวยิงอีกสองราย

7 : อลัน เชียเรอร์ (5-1996, 2-2000)

6 : เวย์น รูนีย์ (4-2004, 1-2012, 1-2016)

5 : เคน (4-2020, 1-2024)

3: แฟร้งค์ แลมพาร์ด  (3-2004)

3: ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (3-2020)

นอกจากนี้ เคน ยังเป็นขุนพลทีม สิงโตคำราม รายที่สามด้วยที่คลำเป้าได้ในสองรายการใหญ่รวมสี่ทัวร์นาเมนต์แล้วต่อจากที่ ไมเคิ่ล โอเว่น กับ เวย์น รูนีย์ ทำได้ (ฟุตบอลโลก 2018, ฟุตบอลยูโร 2020 , ฟุตบอลโลก 2022 , ฟุตบอลยูโร 2024)

แต่อย่างที่บอก หลังออกนำ อังกฤษ ก็ตกเป็นรอง เดนมาร์ก กระทั่งเสียประคืนเนื่องจากสถิติหลังจบเกมในครึ่งแรกฟ้องว่า สิงโตคำราม ด้อยกว่า โคนม ทุกด้านทั้งการครองบอลที่ทีมของ ฮุลมานด์ เหนือกว่า 51.5%:48.5% แถม เดนมาร์ก ได้สับไกมากกว่า 9:6 ครั้ง และเข้ากรอบมากกว่า 4:2 ครั้ง

4. ผู้ดีทำนบแตก

หลังโดนตีเสมอ เท่ากับว่า อังกฤษ เสียประตูในรอบแบ่งกลุ่มศึกฟุตบอล ยูโร เป็นเม็ดแรกแล้วหลังจากเมื่อปี 2020 ทีมของ เซาธ์เกต เก็บคลีนชีตได้เรียบวุธทั้งสามนัด หากแต่พวกเขาซัดได้แค่สองประตูจากสามเกมในการอยู่ร่วมกลุ่มกับ โครเอเชีย (ชนะ 1-0) , สาธารณรัฐเช็ก (ชนะ 1-0) และ สกอตแลนด์  (เสมอ 0-0)

อย่างไรเสีย สุดท้ายแล้ว เซาธ์เกต พาทีมเข้าชิงชนะเลิศได้ด้วยการเอาชนะ เดนมาร์ก ในรอบตัดเขือกของช่วงต่อเวลา 2-1 โดยทีม โคนม ยังแค้นฝังหุ่นมาจนทุกวันนี้เนื่องจากพวกเขายืนยันว่า ราฮีม สเตอร์ลิ่ง พุ่งล้มก่อนที่ เคน จะสังหารลูกโทษไม่พลาด

ขณะเดียวกัน ประตูตีเสมอของ เดนมาร์ก ที่แฟร้งค์เฟิร์ต ของ ฮุลมานด์ ซึ่งซัดประตูแรกในนามทีมชาติได้จากการติดธงเป็นนัดที่เก้าเป็นการยิงไกลของทัวร์นาเมนต์นี้อีกครั้ง

ถึงตอนนี้ ศึก ยูโร 2024 จึงมีการยิงจากนอกเขตโทษตุงตาข่ายเป็นเม็ดที่ 13 แล้ว และมากกว่ารอบแบ่งกลุ่มเมื่อสี่ปีก่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (12 ประตู)

5. ไหวมั้ย เซาธ์เกต?

หลังโม่เกือกกันครบ 90 นาที อังกฤษ ไม่อาจยิงประตูเอาชนะ เดนมาร์ก ได้ และลงเอยด้วยการเสมอกันไป 1-1 โดยเป็นอีกเกมที่ทีมของ เซาธ์เกต มีฟอร์มการเล่นที่ดูไม่จืด และหากจะมองหาแง่บวกหนึ่งเดียวในเกมนี้ของทีม สิงโตคำราม ก็คือการเก็บแต้มได้นั่นเอง

นั่นเป็นเพราะว่าแม้ เซาธ์เกต จะแก้เกมด้วยการเปลี่ยน อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ออกโดยส่ง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ลงไปแทนก่อนจะสร้างเซอร์ไพรซ์ถอดสามกองหน้าออกพร้อมกันทั้ง โฟเด้น ,เคน  และ บูคาโย่ ซาก้า โดยเลือกใช้งาน จาร์เร็ด โบเว่น , โอลลี่ วัตกิ้นส์ และ เอเบเรชี่ เอเซ่ ลงเล่น แต่เกมของทีมชาติ เดนมาร์ก ยังเหนือกว่า รวมทั้งการเข้าทำประตูด้วย

ทั้งนี้ สถิติบ่งชี้ว่า เดนมาร์ก ครองบอลได้มากกว่าเช่นเดิม 50.9%:49.1% และได้ลุ้นทำประตูมากกว่า 16:12 ครั้งโดยพวกเขาส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่าเช่นกัน 7:4 ครั้งซึ่งเป็นเรื่องหนีไม่พ้นที่ เซาธ์เกต จะต้องโดนโขกสับ แถมเป็นงานหนักที่เขาต้องพยายามยกระดับฟอร์มการเล่นของทีมให้ได้หากอยากประสบความสำเร็จบนผืนแผ่นดินไส้กรอกเนื่องจากมองดูแล้วหาก สิงโตคำราม ต้องเผชิญหน้ากับทีมยักษ์ใหญ่ก็น่าเป็นห่วงแทน เซาธ์เกต ไม่น้อยว่าจะเอาตัวรอดได้หรือไม่จากฟอร์มอย่างที่ทุกคนได้เห็นกันในสองเกมที่ผ่านมา

ถึงตรงนี้ อังกฤษ กำชัยได้แค่สองนัดเท่านั้นจากเจ็ดนัดหลังในทุกรายการ แถมต้องไม่ลืมว่าพวกเขาแพ้ ไอซ์แลนด์ ด้วย 1-0 ในเกมอุ่นเกือกทิ้งทวนก่อนบินมาที่เยอรมนีโดยทีมเมืองผู้ดีพ่ายให้กับ บราซิล เช่นกัน และเสมอกับ นอร์ท มาซิโดเนีย , เบลเยี่ยม และ เดนมาร์ก ขณะที่สองทีมที่พวกเขาเอาชนะได้คือ บอสเนีย และ เซอร์เบีย

ขณะเดียวกัน นับเป็นเกมแรกในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่ อังกฤษ ไม่ส่งนักเตะจาก แมนฯ ยูไนเต็ด ลงสนามเลยนับตั้งแต่รอบตัดเชือก ยูโร 1996 ที่พ่ายการดวลลูกโทษให้กับ เยอรมนี ซึ่ง เซาธ์เกต เป็นคนที่ซัดลูกโทษพลาดโดยเกมแรกของ ยูโร 2024 นัดชนะ เซอร์เบีย ค็อบบี้ เมนู ได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองช่วงสี่นาทีสุดท้าย


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport