เยอรมนี เจ้าภาพศึก ยูโร 2024 ทำงานได้ตามเป้าเมื่อลอยลำเข้ารอบน็อกเอาต์ได้ตั้งแต่หัววันจากการเอาชนะ ฮังการี ไปแบบเบาะๆ 2-0 ในการลงเล่นนัดสองของรอบแบ่งกลุ่มเมื่อวันพุธที่ 19 มิ.ย.โดยพวกเขาไม่จำเป็นต้องเครียดในเกมทิ้งท้ายฉะกับ สวิตเซอร์แลนด์ อีกต่อไปขณะที่เกม อินทรีเหล็ก สยบทีม แม็กยาร์ มีประเด็นที่น่าสนใจห้าข้อดังนี้
1. เจ้าภาพชุดเดิมขยี้ขี้เมา
เยอรมนี ของกุนซือ ยูเลี่ยน นาเกิ้ลส์มันน์ ตัดสินใจใช้ไลน์อัพชุดเดิมจากเกมเปิดสนามนัดถล่มแหลก สกอตแลนด์ หงายเก๋ง 5-1
อินทรีเหล็ก ซึ่งหวังเก็บหกแต้มเต็มจากสองเกมยังวางใจให้ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ , จามาล มูเซียล่า และ ไค ฮาแวร์ตซ์ ทำเกมรุกร่วมกัน ขณะที่ โทนี่ โครส กับ โรเบิร์ต เอ็นดริช ปักหลักรับผิดชอบเกมในแดนกลางโดยมี อิลคาย กุนโดกัน สวมปลอกแขนกัปตัน
สำหรับเกมรับ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ กับ โยนาธาน ทาห์ พร้อมเป็นหน้าด่านป้องกันประตูให้กับนายทวาร มานูเอล นอยเออร์ เช่นเดิมโดยแมตช์นี้มือกาวทีม บาเยิร์น มิวนิค เพิ่มสถิติลงสนามในเกม ยูโร มากที่สุดเท่ากับ จานลุยจิ บุฟฟ่อน อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติ อิตาลี 17 นัด
2. แม็กยาร์ ปรับสองตำแหน่งหลังเปิดหัวแย่
ฮังการี ภายใต้การคุมทีมของ มาร์โก รอสซี่ ตัดสินใจปรับทัพสองจุดในแผงหลังต่อกรกับเจ้าถิ่นที่ สตุ๊ตการ์ท หลังออกสตาร์ตแย่แพ้ สวิตเซอร์แลนด์ ขาดลอย 3-1
ทีมแม็กยาร์เลือกส่ง มาร์ตัน ดาร์ได ปราการหลังทีม แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ลงเล่นแทน อัตติล่า ซาไล ดาวเตะทีม ฮอฟเฟ่นไฮม์ ส่วนอีกตำแหน่ง เบนเดอกุซ โบลล่า วิงแบ็คทีม ราปิด เวียนนา เบียด อดัม แลง ดาวเตะทีม โอโมเนีย นิโคเซีย หลุดโผตัวจริง
3. มูเซียล่า ฮอตต่อเนื่อง
จามาล มูเซียล่า ชื่อนี้ยังวางใจได้สำหรับทีมชาติ เยอรมนี ในแง่ของการทำสกอร์โดยเกมนี้ดาวเตะทีม เสือใต้ กระทุ้งให้แฟนบอลด๊อยทช์ได้เฮฮาอีกครั้งในนาทีที่ 22 เป็นสกอร์นำ ฮังการี 1-0 ในช่วง 34 นาทีแรก
นอกจากจะเบิกสกอร์คู่แข่งได้แล้ว มูเซียล่า เกือบเพิ่มเม็ดสองได้ด้วยในช่วงทดเวลา แต่น่าเสียดายที่บอลแฉลบเข้าหน้าต่าง แต่ยังไงซะเขายังเป็นตัวความหวังที่ยอดเยี่ยมของ อินทรีเหล็ก หลังจากแรกที่เอาชนะ สกอตแลนด์ มาได้อย่างขาดลอย 5-1 พ่อค้าแข้งวัย 21 ปีเช็กบิลได้เช่นกันจากการกระทุ้งให้เจ้าภาพนำ 2-0
ถึงตรงนี้ มูเซียล่า คลำเป้าได้สองประตูแล้วจากสองนัดในรายการนี้ และทำให้เขาเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับสามของศึก ยูโร ที่ยิงได้สองเกมติดต่อกัน (21 ปี 119 วัน) รองจาก เวย์น รูนีย์ อดีตหัวหอกทีมชาติ อังกฤษ (18 ปี 241 วัน) และ เฟเรนซ์ เบเน่ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติ ฮังการี (21 ปี 114 วัน)
อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่าแม้เกมในครึ่งแรก เยอรมนี จะเหนือกว่าชัดเจนโดยเฉพาะด้านการครองบอลที่ทีมเมืองเบียร์ทำได้ดีกว่าในสัดส่วน 72%:28% แต่ แม็กยาร์ ได้ลุ้นทำประตูมากถึง 7 ครั้งเป็นรองเจ้าภาพแค่ครั้งเดียวโดยทั้งสองฝ่ายส่งบอลเข้ากรอบเท่ากันสามครั้ง
จากการโดน ฮังการี ส่องยิง 7 ครั้งถือเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดที่ทีม อินทรีเหล็ก ถูกคู่แข่งคุกคามในครึ่งแรกของศึก ยูโร รองจากเกมรอบตัดเชือกปี 2008 ที่พวกเขาเฉือนชนะ ตุรกี 3-2 ในนาทีสุดท้ายเนื่องจากทีม เติร์ก ได้ส่องยิงในครึ่งแรกมากถึง 16 ครั้ง
4. นาเกิ้ลส์มันน์ เป็นงาน
กลับสู่ครึ่งหลัง เยอรมนี กระทุ้งประตูเพิ่มได้อีกเม็ดเป็นการการันตีชัยชนะจากฝีเท้าของ กุนโดกัน ในนาทีที่ 67 ก่อนปิดเกมคว้าสามแต้มได้สำเร็จด้วยสกอร์ 2-0
หลังได้เม็ดสองซึ่ง นาเกิ้ลส์มันน์ น่าจะมองและมั่นใจว่าทีมแม็กยาร์กลับมาไม่ได้อย่างแน่นอนแล้ว กุนซือหนุ่มก็เปลี่ยนตัวสำรองเพิ่มโดยเลือกส่ง เดนิซ อุนดาฟ กับ คริส ฟือห์ริช สองขุนพลทีม ม้าขาว เจ้าถิ่นของสนามแข่งขันลงเล่นเพื่อเอาใจแฟนบอล สตุ๊ตการ์ท โดยเฉพาะซึ่งแสดงให้เห็นว่าโค้ชวัย 36 ปีรู้จักวิธีบริหารทีมไม่หยอก
อย่างไรก็ดี แม้จะเอาชนะ ฮังการี ได้ไม่ลำบาก แต่สถิติหลังเกม 90 นาทียังจี้ให้เห็นถึงปัญหาของเจ้าภาพที่ถูกซุกซ่อนอยู่เนื่องจากพวกเขาโดนทีมคู่แข่งส่องยิงทั้งหมดเพิ่มเป็น 11 ครั้งซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในเกม ยูโร ของรอบแบ่งกลุ่มที่ทีมด๊อยทช์เผชิญนับตั้งแต่โดน เนเธอร์แลนด์ ไล่ยิง 14 ครั้งในเกม ยูโร 2012 หากแต่นัดที่ว่า เยอรมนี ซิวชัยได้เช่นกันด้วยสกอร์ 2-1
ขณะเดียวกัน ฮังการี เท้าบอดเป็นเกมแรกจาก 13 เกมหลังของทุกรายการ แต่พวกเขาไม่ชนะเกม ยูโร นานแปดนัดติดต่อกันแล้ว (เสมอ 4 แพ้ 4) นับตั้งแต่สยบ ออสเตรีย 2-0 ในเกมแรกของศึก ยูโร 2016
5. โครส แขวนแข้งเร็วไป?
ในวัย 34 ปี บอกเลยว่า โทนี่ โครส มิดฟิลด์ทีมชาติ เยอรมนี ด่วนแขวนรองเท้าไวไปหลังประกาศอำลาสังเวียนแข้งทันทีที่พา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ลา ลีกา และ แชมเปี้ยนส์ลีก ได้เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา
กระนั้นก็ดี อดีตสตาร์ทีม บาเยิร์น มิวนิค ตัดสินใจหวนกลับมารับใช้ชาติอีกรอบโดยให้เหตุผลว่าหากไม่เชื่อว่า อินทรีเหล็ก จะคว้าแชมป์ทวีปได้ในแผ่นดินตัวเอง เขาก็คงไม่คิดคัมแบ็คหลังได้รับการทาบทามจาก นาเกิ้ลส์มันน์
และจากที่เห็นทั้งสองเกมของทัวร์นาเมนต์นี้ โครส น่าจะยังค้าแข้งต่อได้อย่างสบายเนื่องจากเขาใช้ฝีเท้าและมันสมองในการเล่นมากกว่าพละกำลัง
ในเกมยำใหญ่ สกอตแลนด์ โครส ผ่านบอลสำเร็จ 101 ครั้งจาก 102 ครั้งคิดเป็น 99.0% ซึ่งถือว่าน่าทึ่งอย่างยิ่ง
พร้อมกันนี้ เขาแทงบอลทะลุช่องตลอดทั้งเกมได้สำเร็จ 31 ครั้งมากกว่านักเตะ ตาร์ตัน ทุกรายที่ผ่านบอลธรรมดาสำเร็จโดยมี คีแรน เทียร์นีย์ ทำได้มากที่สุด 30 ครั้ง
ถัดมาในเกมบู๊กับ ฮังการี โครส ผ่านบอลสำเร็จ 124 ครั้ง และจัดว่ามากที่สุดเป็นอันดับสองสำหรับนักเตะในตำแหน่งกองกลางของศึกฟุตบอล ยูโร เลยทีเดียวโดยเป็นรองแค่ ชาบี อดีตจอมทัพทีมชาติ สเปน ซึ่งทำได้ 127 ครั้งในเกมฟัดกับ ไอร์แลนด์ ปี 2012