ฝอยทองหวิดม้วย! 5 ข้อ โปรตุเกส สตาร์ตยูโรฝืดฮึดแซงชนะ เช็ก ทดเวลา

ฝอยทองหวิดม้วย! 5 ข้อ โปรตุเกส  สตาร์ตยูโรฝืดฮึดแซงชนะ เช็ก ทดเวลา
โปรตุเกส เกือบทำให้แฟนบอลใจสลายหลังออกสตาร์ตฟุตบอล ยูโร 2024 ด้วยฟอร์มที่ไม่เด็ดขาดบาดใจเท่าที่ควร และโดน สาธารณรัฐเช็ก เจาะไข่แดงไปก่อน แต่สุดท้ายทีมฝอยทองยังเอาตัวรอดคว้าสามแต้มได้สำเร็จจากการเร่งเกมบุกเต็มพิกัดบีบให้ฝ่ายตรงข้ามก่อความผิดพลาดก่อนเช็กบิลแซงหน้าเอาชนะไปได้แบบน้ำลายเหนียวด้วยสกอร์ 2-1 ในการลงเล่นเกมแรกของกลุ่ม เอฟ เมื่อวันอังคารที่ 18 มิ.ย.

1. โรนัลโด้ นำทัพฝอยทอง-เปเป้ ร่วมสร้างสถิติ

ทีมชาติ โปรตุเกส จัดทัพลงสนามแบบเต็มอัตราศึกโดยมี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นำทีมอันเป็นการลงบู๊ศึกใหญ่รายการที่ 13 ของสตาร์วัย 39 ปีซึ่งมีผลงานสอยตาข่ายไปแล้ว 14 ประตูจาก 25 นัดของศึกฟุตบอล ยูโร แถมครั้งนี้เป็นสมัยที่หกของเขาแล้วซึ่งทำให้เจ้าตัวเป็นนักเตะรายแรกที่ลงเล่นเกม ยูโร มากครั้งที่สุดด้วย

นอกจาก ซีอาร์เซเว่น แล้ว เปเป้ ปราการหลังจอมเก๋าวัย 41 ปี 113 วันถูกส่งลงสนามเป็นตัวจริงเช่นกันซึ่งทำให้เซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีม ปอร์โต้ เป็นนักเตะอายุมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอล ยูโร ขณะที่ห้าดาวเตะจากทีม แมนฯ ซิตี้ และ แมนฯ ยูไนเต็ด ต่างก็ได้ลงบู๊ทั้ง รูเบน ดิอาส , แบร์นาร์โด้ ซิลวา , ชูเอา กานเซโล่ , บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ ดีโอโก้ ดาโลต์

2. เช็ก ฝากความหวังกับสองแข้งขุนค้อน

สาธารณรัฐเช็ก ของกุนซือ อีวาน ฮาเซ็ก  วางหมากด้วยการใช้งานสองดาวเตะจากทีม เวสต์แฮม ทั้ง โทมัส ซูเช็ก ที่ได้สวมปลอกแขนกัปตัน และ วลาดิเมียร์ คูฟาล

สำหรับแดนหน้า พาทริค ชิค ดาวยิงทีม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ได้รับผิดชอบภาระการล่าตาข่ายโดยเท่าที่ผ่านมาเขามีผลงานตะบันให้แผ่นดินเกิด 19 ประตูจาก 38 นัด

อย่างไรก็ดี ที่น่าเป็นห่วงแทนทีม เช็ก คือนอกจากจะเป็นทีมที่มีอายุเฉลี่ยอ่อนที่สุดในรายการนี้แล้ว พวกเขายังยิงประตูในเกมรอบคัดเลือกได้น้อยที่สุดเช่นกัน ขณะที่ ฮาเซ็ก เพิ่งคุมทีมชาติลงเล่นเกมอุ่นเกือกแค่สี่นัดก่อนเกมนี้หลังได้รับตำแหน่งเมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา

3. ครึ่งแรก เช็ก เอาอยู่

ในฐานะทีมที่เป็นรอง ต้องบอกว่า เช็ก ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมตามแทกติกที่เน้นตั้งรับลึกในแดนตัวเอง และไม่เปิดโอกาสให้ โปรตุเกส ได้มีจังหวะคลำเป้าอย่างถนัดถนี่ ยกเว้นจังหวะที่ โรนัลโด้ ได้บอลแทงทะลุจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส หลุดเดี่ยวไปซัดติดเซฟของนายทวาร ยินดริช สตาเน็ก แถมไม่แน่ว่าอาจเป็นจังหวะล้ำหน้าด้วยซ้ำ

นอกจากจังหวะหลุดเดี่ยว โรนัลโด้ หาโอกาสกระทุ้งเต็มข้อได้อีกหนในช่วงทดเวลาของครึ่งแรก แต่โดน สตาเน็ก ปัดได้อย่างยอดเยี่ยมจนทำให้สกอร์จบลงด้วยผลเสมอ 0-0 แม้เกมจะตกเป็นของทีมฝอยทองข้างเดียวอย่างเห็นได้ชัด

ไม่เพียงทีมของ โรเบร์โต้ มาร์ติเนซ จะครองบอลได้มากกว่าบานตะไท 74.8%:25.2% แต่ โปรตุเกส ผ่านบอลให้กันได้สำเร็จตลอดครึ่งแรกมากถึง 368 ครั้งซึ่งเป็นสถิติที่สูงที่สุดของฟุตบอล ยูโร นับตั้งแต่มีระบบการบันทึกสถิติเมื่อปี 1980 ด้วย

ขณะเดียวกัน ทีมฝอยทองได้โอกาสยิงใน 45 นาทีแรกทั้งหมด 9 ครั้งเข้ากรอบ 3 ครั้ง ขณะที่ เช็ก ได้ลุ้นครั้งเดียวโดยที่ไม่เข้ากรอบ แต่สุดท้าย โปรตุเกส ไม่อาจเบิกตาข่ายทีมคู่ปรับได้แม้จะผ่านบอลเข้าเขตโทษของ เช็ก ได้ 11 ครั้ง ขณะที่ทีมของ ฮาเซ็ก ทำไม่ได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว

4. ฮรานาช ฝันร้าย

จะว่าไปเกมในครึ่งหลังของ เช็ก ยังจัดว่าเล่นกันได้ดี และสร้างความอึดอัดให้กับ โปรตุเกส ที่พยายามหาจังหวะทำสกอร์ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่นายทวาร สตาเน็ก ยังเซฟประตูได้อย่างเหนียวหนึบจนกระทั่งนาทีที่ 62 แฟนบอลฝอยทองก็ต้องตาค้างเมื่อ ลูคัส โพรว็อด ส่องไกลจากหน้าเขตโทษให้ เช็ก ออกนำแบบพลิกความคาดหมาย 1-0

สำหรับประตูนี้ต้องบอกว่ากลายเป็นเทรนด์ของศึก ยูโร 2024 ไปแล้วเนื่องจากเท่าที่ผ่านมาหลายประตูเกิดขึ้นจากการยิงนอกเขตโทษ และประตูนี้เป็นประตูที่ 11 แล้วซึ่งน้อยกว่าเกมรอบแบ่งกลุ่มของคราวก่อนในปี 2020 แค่ประตูเดียวเท่านั้น (12ประตู)

อย่างไรก็ดี โปรตุเกส ไม่มีท้อแท้ และกดดันคู่แข่งต่อเนื่องอย่างหนักกระทั่งตีเสมอได้ในอีกเจ็ดนาทีต่อมาจากจังหวะที่ โรบิน ฮรานาช สกัดบอลเข้าประตูตัวเองอย่างโชคร้ายหลังจากนายทวาร สตาเน็ก ปัดบอลมาชนหน้าแข้งของเขากลับเข้าสู่ก้นตาข่ายในระยะเผาขน

ถึงกระนั้น เช็ก น่าจะแชร์แต้มกับ โปรตุเกส ได้จากความพยายามและกัดฟันสู้อย่างน่ายกย่องของพวกเขา แต่สุดท้ายในนาทีที่ 92 ฮรานาช เจ้าเก่าก็ก่อความผิดพลาดจนได้หลังโดนเกมรุกของคู่แข่งเล่นงานอย่างหนักกระทั่งสกัดบอลจากกราบซ้ายไม่เด็ดขาดเองจนเปิดโอกาสให้ ฟรานซิสโก้ คอนเซยเซา ตัวสำรองเก็บตกไม่เหลือพาฝอยทองกำชัยไปจนได้ด้วยสกอร์ 2-1

หลังจบเกม สถิติเผยว่า โปรตุเกส ครองบอลได้มากกว่าเช่นเดิมในสัดส่วน 73.6%:26.4% และได้ส่องยิง 19 ครั้งเข้ากรอบ 8 ครั้ง ขณะที่ เช็ก ได้ง้าง 5 ครั้ง และเข้ากรอบครั้งเดียว

5. ฮีโร่ที่ไม่มีใครคาดคิด

อาจไม่ใช่ แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ของเกมเนื่องจากคณะกรรมการของ ยูฟ่า มอบรางวัลให้กับ วิตินญ่า แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกมนี้ทีมฝอยทองมี คอนเซยเซา เป็นฮีโร่ตัวจริงเพราะหากไม่ได้ประตูของเขาในช่วงทดเวลา ทีมของ มาร์ตีเนซ ก็น่าจะต้องแบ่งแต้มกับทีมรองบ่อน

หลังถูกส่งลงเล่นเป็นตัวสำรองช่วงท้ายเกม ดาวยิงวัย 21 ปีของสโมสร ปอร์โต้ ก็พังประตูแรกในนามทีมชาติได้สำเร็จกับการลงสนามเป็นนัดที่สาม แถมไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเขาจะจดจำประตูแรกกับแผ่นดินเกิดไปจนวันตายเนื่องจากมันเป็นประตูที่ทำให้ทีมฝอยทองแซงชนะ เช็ก ได้อย่างที่ควรจะเป็น

ยิ่งไปกว่านั้น มีการเผยสถิติออกมาว่าลูกชายของ แซร์โจ้ คอนเซยเซา อดีตกุนซือ ปอร์โต้ ที่แยกทางกับทีมไปหมาดๆในช่วงซัมเมอร์ใช้เวลาอยู่ในสนามแค่ 111 วินาทีก็ส่งบอลตุงตาข่ายได้ซึ่งทำให้เขาเป็นนักเตะทีมชาติ โปรตุเกส ตัวสำรองรายแรกที่ยิงประตูในเกม ยูโร ได้ต่อจาก แอแดร์ ในนัดชิงชนะเลิศ ยูโร ปี 2016 ที่ทีมฝอยทองสยบ ฝรั่งเศส ได้ 1-0 ในนาทีที่ 109 ที่สนาม สต๊าด เดอ ฟร็องซ์


ที่มาของภาพ : gettyimages,
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport