มีเหตุผลชวนเชื่อว่าทำไม ฮังการี ถึงถูกยกให้เป็น 'ม้ามืด' ก่อนหน้าศึกยูโรจะเปิดฉากขึ้น ก็พวกเขามีเกมรับเหนียวแน่นเสียไปเพียง 7ลูก จาก 8 เกมในรอบคัดเลือกโดยไม่แพ้ใครเลย ขณะเดียวกันผลงานในเนชั่นส์ลีกก็ดีด้วยเคยเอาชนะ อังกฤษ กับ เยอรมัน มาแล้ว
นอกจากนั้นทีมชุดนี้ก็รวมตัวกันมานานภายใต้โค้ชชาวอิตาเลี่ยนที่มาทำงานตั้งแต่ปี 2018 ซึ่งไหนจะเรื่องของพลังจากกองเชียร์ที่ขนตามกันมาหลักหมื่นอีก
เมื่อบ่ายวันเสาร์ก็พบบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมตามคาด มันไม่ใช่บิ๊กแมตช์แน่นอนเพราะสองทีมที่เจอกันถือว่าต่างอยู่นอกสายตา ทีมหนึ่งอันดับฟีฟ่า 26 ส่วนอีกทีม 19
ถึงกระนั้นหากจะมีม้ามืด(ตัวจริง)ตัวไหนประจำทัวร์นาเมนต์ก็อาจมาจากเกมนัดนี้ ถึงต่อจะไม่ใช่ ฮังการี ตามที่เกจิบางคนได้ทุบโต๊ะไว้อย่างมั่นใจก็ตามเถอะ ในเชิงของแท็กติกนั้นต่างก็วางระบบที่คล้ายกันด้วย3-2-4-1
"สิบเอ็ดตัวจริงที่ลงมีเซอร์ไพร์สสองตำแหน่ง ตำแหน่งแรกกองหน้าตัวเป้า ส่วนอีกตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง ต้องรอดูว่า มูรัต ยาคิ้น จะตัดสินใจถูกต้องไหม "นักข่าวหนุ่มที่บ้านอยู่เจนีวามาตามชาติบ้านเกิดโดยเฉพาะอธิบายไว้ตอนรายชื่อออก
กองหน้าตัวเป้าที่เขาว่าได้แก่หมายเลข18 -ควัดโว ดูอาห์ ที่ติดทีมชาตินัดที่สองเท่านั้น ส่วนมิดฟิลด์ตัวกลางเบอร์20 -มิเชล เอบิสเชอร์
ก็แค่ 12 นาทีเท่านั้นนักข่าวเลือดสวิสก็ลุกยืนแหกปากลั่น ผมรีบหันไปดูใบหน้าตอนนั้นของเขาแดงก่ำแต่เป็นการระเบิดอารมณ์ด้วยความดีใจเมื่อทีมตัวเองออกนำ1-0
นักข่าวสวิสที่นั่งข้างๆดีใจสุดเหวี่ยงทุกครั้งที่ทีมตัวเองยิงประตูได้
ต้องเล่าว่า สวิตเซอร์แลนด์ ชุดนี้เดินทางมา เยอรมัน ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากสื่อกับแฟนบอล เก้าอี้ของ ยากิ้น ก็โยกเยกไปมา เหตุผลหลักจากฟอร์มช่วงหลังที่ชนะแค่ 2 จาก 10 นัด หลังแถมยังมาจาก อันดอร์ร่า กับ ไอร์แลนด์
ยิ่งกว่านั้นอาการบาดเจ็บยาวของกองหน้าตัวความหวัง บรีล เอ็มโบโล่ ยิ่งทำให้ความเชื่อมั่นต่ำลงไปอีก
แต่นี่แหละครับสถานการณ์มักสร้างวีรบุรุษ ไม่มีอุปสรรคแล้วจะแข็งแกร่งขึ้นได้อย่างไร เกมกับ ฮังการี ก็เป็นสองผู้เล่นเซอร์ไพร์สช่วยกันพาทีมเก็บสามแต้มได้ ประตู 1-0 มาจาก ดูอาห์ คนที่แอสซิตส์ก็เอบิสเชอร์ ประตู2-0 เป็น เอบิสเชอร์ ที่จบเอง
"ครึ่งแรกเราแพ้เพราะแท็กติกเลย พวกเขามีการปรับแท็กติกตลอดตอนตั้งรับกับตอนรุก ผมเองตะโกนจนเสียงแห้งตลอดครึ่งแรก" มาร์โก รอสซี่ กุนซือของฮังการียอมรับ
หากให้วิเคราะห์ลงไปถึงชัยชนะของสวิสก็ยังต้องชี้ไปยังตัวแกนที่คอยประคองทีมจากนายทวาร ยานน์ ซอมเมย แผงหลังนำโดย มานู อกานยี่ และแดนกลางกัปตัน กรานิต ชาก้า
ว่าไปนี่คือชาติที่ไม่ได้มีลีกลูกหนังโด่งดังอะไร กีฬายอดฮิตของคนในประเทศก็อาจเป็นสกีน้ำแข็งซะอีกแต่ก็นับได้เลยรอบสองทศวรรษมานี้พวกเขาผ่านเข้ารอบสุดท้ายทัวร์นาเมนต์ใหญ่มากี่ครั้งแล้ว คำตอบ-มีแค่ยูโร2012เท่านั้นที่ไม่เข้าร่วม
แฟนบอลฮังการีมากันเยอะตามคาดแต่สิ่งที่ไม่เป็นไปตามคาดเป็นผลงานของทีม
"ฟุตบอลคือกีฬาอันดับหนึ่งของพวกเรา "นักข่าวคนเดิมย้ำ" ต่อให้ฟุตบอลของเราไม่ได้เจ๋งเท่าลีกอังกฤษหรือเยอรมันก็ตาม"
สวิตเซอร์แลนด์จึงไม่ได้มีดีแค่นาฬิกาแน่นอน
คงด้วยระยะทางที่ใกล้ด้วยจึงทำให้รอบนี้พบกองเชียร์สวิสแห่มาให้กำลังใจหนาตาโดยพวกเขาย่อมหวังว่าทีมตัวเองจะทำได้อย่างนี้อีกครั้งในนัดถัดไปกับสกอตแลนด์เพื่อเลี่ยงไปลุ้นวัดดวงเกมสุดท้ายกับเจ้าภาพเยอรมัน
แต่จากที่ได้เห็นมากับสองตาตลอด90นาทีในโคโลญจน์
ถ้าจะมีม้ามืดประจำยูโรหนนี้แล้ว ก็พูดได้เลยว่าไม่ใช่ฮังการี...
"ไก่ป่า".....