อังกฤษ เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จในศึกยูโร 2024 ให้ได้ หลังจากที่พวกเขาเกือบทำสำเร็จเมื่อสี่ปีที่ผ่านมา สำหรับการอยู่ในกลุ่ม ซี ร่วมกับ เดนมาร์ก, สโลวีเนีย และ เซอร์เบีย ถือว่าไม่ค่อยแข็งแกร่งมากนัก ฉะนั้นโอกาสที่จะคว้าแชมป์กลุ่มมีค่อนข้างสูง ขณะที่อันดับ 2 น่าจะเป็นการขับเคี่ยวกันอย่างสูสีของ 3 ชาติที่เหลือ อย่างไรก็ตาม "สิงโตคำราม" ห้ามประมาทเช่นกัน เนื่องจากทั้ง 3 ชาติมีขุมกำลังที่ออกไปโลดแล่นในลีกชั้นนำยุโรปมากมาย และนั่นถือเป็นข้อได้เปรียบของพวกเขาอย่างแท้จริง
อังกฤษ
ทีมชาติอังกฤษ ใกล้เคียงกับความสำเร็จในระดับชาติมากขึ้นเรื่อยๆ โดยพวกเขาทะลุเข้ารอบชิง ยูโร 2020 (แพ้ อิตาลี), ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลโลก 2022 (แพ้ ฝรั่งเศส) และทะลุตัดเชือก เวิลด์ คัพ 2018 (แพ้ โครเอเชีย) สามครั้งในทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์ของพวกเขามีแต่ความผิดหวัง งานนี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต แอนด์ โค. คาดหวังว่าครั้งที่สี่เทพีแห่งโชคจะเข้าข้างพวกเขากับการยกพลบุกดินแดนไส้กรอก
สำหรับผลงานในรอบคัดเลือกต้องบอกว่า "สิงโตคำราม" โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดไม่แพ้ทีมใดเลย พร้อมทั้งตะบันตาข่ายคู่แข่งไปถึง 22 ประตู เสียแค่ 4 ประตูเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาพกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม โดยมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการนำโทรฟี่ระดับชาติมาประดับดินแดนต้นกำเนิดเกมลูกหนัง หลังเคยทำได้แค่แชมป์เวิลด์ คัพ เพียง 1 สมัย เมื่อปี 1966
ต้องยอมรับว่าขุมกำลังทัพ "ทรี ไลอ้อนส์" ชุดนี้ถือเป็นแข้งพลังหนุ่มที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานที่อยากจะนำความสำเร็จกลับมาสู่บ้านเกิดให้ได้ โดยมีหลายคนที่ประสบความสำเร็จในระดับสโมสร และพร้อมจะนำประสบการณ์จากต้นสังกัดของตัวเองมาช่วยประเทศชาติสำหรับยูโรครั้งนี้
สตาร์ประจำทีม - แฮร์รี่ เคน
แน่นอนว่า อังกฤษ มีผู้เล่นที่น่าจับตามองมากมาย อาทิเช่น ฟิล โฟเด้น, เดแคลน ไรซ์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ แฮร์รี่ เคน เป็นต้น แต่สำหรับตอนนี้ผู้เล่นที่เป็นตัวความหวังที่แท้จริงคงหนีไม่พ้น จู๊ด เบลลิงแฮม ที่ฝีเท้าเก่งเกินวัยเหลือเกิน
ทั้งๆ ที่อายุเพียงแค่ 20 ปีแต่ เบลลิงแฮม ออกไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ลูกหนังจากต่างแดนทั้ง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และปัจจุบันกับ เรอัล มาดริด ซึ่งการเล่นให้ทัพ "ราชันชุดขาว" ช่วยยกระดับศักยภาพของนักเตะให้กลายเป็นแข้งเวิลด์ คลาส ไปเรียบร้อยแล้ว
ผลงานตะบันไปถึง 23 ประตูจากการลงเล่นให้ "โลส บลังโกส" 42 แมตช์ทุกรายการในฤดูกาลแรกที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว และเป็นหนึ่งในแข้งคีย์แมนสำคัญที่มีส่วนนำทีมคว้าแชมป์ลา ลีกา สเปน และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ เบลลิงแฮม จะถูกคาดหวังให้สร้างสิ่งมหัศจรรย์แบบนี้กับ อังกฤษ
โอกาสเข้ารอบน็อกเอาต์ - 80 เปอร์เซนต์
โปรแกรมฟุตบอลยูโร 2024 ของทีมชาติอังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย. พบ เซอร์เบีย เวลา 02.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
วันพฤหัสบดีที่ 20 มิ.ย. พบ เดนมาร์ก เวลา 23.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
วันอังคารที่ 25 มิ.ย. พบ สโลวีเนีย เวลา 02.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
++++++++++++++++++++++++++++++++
สโลวีเนีย
มาเทียช เค็ค พัฒนา สโลวีเนีย ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่ที่เข้ามากุมบังเหียนเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2018 และจากนั้นก็ค่อยๆ พัฒนาทีมอย่างต่อเนื่อง จนยกระดับผลงานขึ้นมาเป็นหนึ่งในชาติม้ามืดที่มีฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่ง
สำหรับในรอบคัดเลือกต้องบอกเลยว่า สโลวีเนีย โชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมมากๆ โดยพวกเขามีสถิติชนะ 7 เสมอ 1 และแพ้ 2 เกมเท่ากับ เดนมาร์ก แต่พลาดเป็นแชมป์กลุ่ม เนื่องจากสถิติการพบกันเองเป็นรองทัพโคนมเท่านั้น
ด้วยขุมกำลังในทีมที่ส่วนใหญ่ออกไปค้าแข้งต่างแดน นั่นทำให้ผู้เล่นของสโลวีเนียค่อนข้างมีประสบการณ์ และงานนี้ กุนซือวัย 62 ปี มีความมั่นใจว่าลูกทีมของเขาจะสามารถฟาดฟันกับเพื่อนร่วมกลุ่มได้อย่างสูสี พร้อมทั้งลุ้นที่จะไปได้ไกลกว่ายูโร 2000 ที่ทีมจบในอันดับบ๊วยรอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น
สตาร์ประจำทีม - เบนจามิน เซสโก้
ตอนนี้ถ้าจะหาชื่อนักเตะกองหน้าที่ได้รับความสนใจจากสโมสรชั้นนำในยุโรปหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อของ เบนจามิน เซสโก้ หลังจากที่เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับการเล่นให้ แอร์เบ ไลป์ซิก สโมสรแกร่งในศึกบุนเดสลีกา เยอรมนี
ฟอร์มการกระซวกตาข่ายคู่แข่งของ หัวหอกวัย 21 ปีต้องบอกว่าทั้งอันตรายและเฉียบคมอย่างมากๆ โดยเขาโดดเด่นทั้งลูกกลางอากาศ และบนพื้น สถิติตะบันไป 18 ประตูจากการลงสนามทุกรายการให้กับ ไลป์ซิก เมื่อซีซั่นล่าสุด เป็นเรื่องการันตีความโหดของเขาได้เป็นอย่างดี
ด้วยฟอร์มที่สุดยอดทำให้ อาร์เซน่อล ต้องการเซ็นสัญญากับนักเตะให้เร็วที่สุด เพราะเชื่อว่า เซสโก้ มีโอกาสที่จะฉายแววความดุดันในการถล่มประตูคู่แข่งในศึกยูโร 2024 ซึ่งนั่นจะทำให้ค่าตัวของเขาพุ่งสูงขึ้นเป็นทวีคูณแน่นอน
โอกาสเข้ารอบน็อกเอาต์ - 40 เปอร์เซนต์
โปรแกรมฟุตบอลยูโร 2024 ของทีมชาติสโลวีเนีย
วันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย. พบ เดนมาร์ก เวลา 23.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
วันพฤหัสบดีที่ 20 มิ.ย. พบ เซอร์เบีย เวลา 20.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
วันอังคารที่ 25 มิ.ย. พบ อังกฤษ เวลา 02.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย
++++++++++++++++++++++++++++
เดนมาร์ก
แคสเปอร์ ฮุลมันด์ สร้างความตื่นตะลึงด้วยการนำ เดนมาร์ก ทะลุเข้ารอบตัดเชือก ศึกยูโร 2020 แต่น่าเสียดายที่พวกเขาพ่ายให้กับ อังกฤษ อย่างไรก็ตามนั่นคือผลงานที่ดีที่สุดของทัพโคนม นับตั้งแต่ที่เคยทำเซอร์ไพรส์คว้าแชมป์ยูโร 1992 แบบช็อกโลกมาแล้ว
เดนมาร์ก ทำผลงานได้คงเส้นคงวาในรอบคัดเลือกพร้อมกับสถิติยิงประตู 19 ลูก แต่เสียไปถึง 10 ลูก ซึ่งนั่นเป็นจุดที่ ฮุลมันด์ แอนด์ โค. ต้องมีการแก้ไข เพราะมันอาจส่งผลเสียเมื่อต้องลงสนามในรอบสุดท้ายที่เมืองเบียร์
จากประวัติของพวกเขาทำให้หลายคนไม่กล้าประมาททัพโคนม และเชื่อว่าทีมชุดนี้มีสิทธิ์สร้างความประหลาดใจเหมือนกับบรรดารุ่นพ่อที่เคยทำสำเร็จมาแล้วเมื่อ 32 ปีก่อน ที่สำคัญขุมกำลังส่วนใหญ่โลดแล่นในลีกชั้นนำยุโรป นั่นอาจเป็นประโยชน์สำหรับทีมด้วย
สตาร์ประจำทีม - ราสมุส ฮอยลุนด์
เดนมาร์กเป็นอีกชาติที่ส่งออกนักเตะไปเล่นในลีกชั้นนำยุโรป โดยมีนักเตะชั้นนำหลายคนที่เล่นทั้งในอังกฤษ, เยอรมนี, อิตาลี และ สเปน ส่วนคนที่กำลังร้อนแรงที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้น ราสมุส ฮอยลุนด์ หัวหอกแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ฮอยลุนด์ ซึ่งเคยเล่นกับ อตาลันต้า อาจจะฟอร์มกระท่อนกระแท่นในช่วงแรกที่เล่นให้ "ปีศาจแดง" แต่ในช่วงกลางซีซั่นนักเตะสามารถปรับตัวกับลีกเมืองผู้ดี และช่วยผลิตสกอร์ให้กับต้นสังกัด จนทำให้ทีมสามารถคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้อย่างสุดยอด
สำหรับซีซั่นเดบิวต์ในฐานะผู้เล่นแมนฯ ยูไนเต็ด ถือว่าไม่ธรรมดาเมื่อซัดไปถึง 16 ประตูจากการลงสนาม 43 เกมในทุกรายการ และแน่นอนว่า ยูโร 2024 จะเป็นบทพิสูจน์ความสามารถของ ฮอยลุนด์ ว่าเหมาะจะเป็นหนึ่งในกองหน้าระดับโลกหรือไม่
โอกาสเข้ารอบน็อกเอาต์ - 70 เปอร์เซนต์
โปรแกรมฟุตบอลยูโร 2024 ของทีมชาติเดนมาร์ก
วันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย. พบ สโลวีเนีย เวลา 23.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
วันพฤหัสบดีที่ 20 มิ.ย. อังกฤษ เวลา 23.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
วันอังคารที่ 25 มิ.ย. พบ เซอร์เบีย เวลา 02.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
+++++++++++++++++++++++++++++++
เซอร์เบีย
เซอร์เบีย เคยผ่านเข้าไปเล่นในศึกยูโร 84 ในนามยูโกสลาเวีย จากนั้นก็ได้เข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายปี 2000 ในชื่อ เซอร์เบีย แอนด์ มอนเตเนโกร หลังจากผ่านไป 24 ปี ยูโรบนดินแดนไส้กรอกจะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเข้ามาเล่นรอบสุดท้ายในชื่อเซอร์เบีย
ดราแกน สตอยโควิช ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่เก่งที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์เซอร์เบีย เข้ามากุมบังเหียนบ้านเกิดเมื่อปี 2021 โดยเขาสามารถปลุกปั้นทีมเล็กๆ ให้กลายเป็นทีมที่แข็งแกร่ง และทะลุเข้าไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รวมทั้ง ยูโร 2024
จุดเด่นของ เซอร์เบีย ก็คือบรรดาผู้เล่นทุกคนมีความสามารถเฉพาะตัวสูง และเล่นกันได้อย่างเข้าขา ผสมกับการเล่นร่วมกันมานาน และยังมีหลายคนที่ออกไปค้าแข้งในลีกชั้นนำมากมายหลายประเทศ นั่นยิ่งทำให้นักเตะเซิร์บสะสมประสบการณ์ และพร้อมที่จะสู้กับคู่แข่งได้ทุกชาติ
สตาร์ประจำทีม - ดูซาน วลาโฮวิช
หนึ่งในหัวหอกเนื้อหอมของวงการลูกหนังก็คือ ดูซาน วลาโฮวิช โดยนักเตะทำผลงานได้อย่างดุดันกับ ยูเวนตุส ด้วยการซัดไป 18 ประตูในทุกรายการ สำหรับ ดาวยิงจากค่าย "ม้าลาย" เป็นหัวหอกที่อันตรายทุกจังหวะ และจบสกอร์ได้เฉียบคม ขณะเดียวกันผลงานกับทีมชาติก็ยอดเยี่ยมเนื่องจากนักเตะจัดการสอยตาข่ายคู่แข่งไปแล้ว 13 ประตูจาก 26 แมตช์ ฉะนั้นหากคู่แข่งประมาทมีสิทธิ์โดน วลาโฮวิช กระซวกประตูเอาได้ง่ายๆ เลยทีเดียว
โอกาสเข้ารอบน็อกเอาต์ - 60 เปอร์เซนต์
โปรแกรมฟุตบอลยูโร 2024 ของทีมชาติเซอร์เบีย
วันอาทิตย์ที่ 16 มิ.ย. พบ อังกฤษ เวลา 02.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
วันพฤหัสบดีที่ 20 มิ.ย. สโลวีเนีย เวลา 20.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
วันอังคารที่ 25 มิ.ย. พบ เดนมาร์ก เวลา 02.00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)