ทีมตะกร้อชุดชายไทยโชว์ฟอร์มสุดยอดไล่ฟาด "เสือเหลือง" มาเลเซีย คู่ปรับตลอดกาลในรอบชิงชนะเลิศ 2-0 ทีม ครองแชมป์ 7 สมัยติดเป็นการคว้าเหรียญทองที่ 8 ให้ทัพนักกีฬาไทย ในเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่ประเทศจีน
การแข่งขันตะกร้อ ในมกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่จินหัว สปอร์ต เซนเตอร์ ยิมเนเซี่ยม เมืองจินหัว สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ ที่ 29 ก.ย.66 เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศ ในประเภททีมชุดชาย โดยทีมตะกร้อชายทีมชาติไทย ดีกรีแชมป์เก่า 6 สมัย ลงดวลกับ "เสือเหลือง" มาเลเซีย ดีกรีแชมป์ 1 สมัย
เริ่มมาในทีม เอ ไทย ส่ง "ยาวปืนใหญ่" สิทธิ์พงศ์ คำจันทร์ ลงเสิร์ฟ วาง วิชาญ เต็มโคตร ยืนหน้าซ้ายชง และ พิเชษฐ์ พันแสน ลงฟาด ส่วน มาเลเซีย มี ไฮรุล นีซัม, ฟาร์ฮาน อดัม และ โมฮาเหม็ด นอร์ ไอซัค เกมคู่นี้ ไฮรุล นีซัม จอมเสิร์ฟมาเลเซีย ออกมาท้ารบดวลเสิร์ฟกับ สิทธิพงศ์ คำจันทร์ แต่ทว่าความเฉียบขาดยังสู้สิทธิพงศ์ ไม่ได้ ทำให้ทีมตะกร้อหนุ่มไทย ฟาดเอาชนะไปได้ก่อน 2-0 เซต 21-15,21-14 ขึ้นนำก่อน 1-0 ทีม
จากนั้นทีม บี ไทย ส่ง "ซ้ายสั่งตาย" ศิริวัฒน์ สาขา ลงเสิร์ฟ, ภัทรพงษ์ ยุพดี เป็นตัวชง และ วรายุทธ์ จันทรเสนา เป็นตัวทำ ส่วน เสือเหลือง ใช้ 3 ประสานตัวเก่ง อย่าง ซาเฮียร์ รอสดี้, อามีรุล ซัสวาน, อาลีอัส อัซลาน โดยเกมคู่นี้ ทีมตะกร้อหนุ่มไทย ยังอาศัยทีมเวิร์คที่ยอดเยี่ยม และเพลงเสิร์ฟและเกมฟาดที่หลากหลายกว่าฟาดเอาชนะไปได้อีก 2-0 เซต 21-13, 21-18
จากชัยชนะทีมบี ส่งผลให้ ทีมตะกร้อหนุ่มทีมชาติไทย เอาชนะ มาเลเซีย ไปได้ 2-0 ทีม พร้อมกับผงาดคว้าเหรียญทองมาครองได้เป็นสมัยที่ 7 ติดต่อกัน นับตั้งแต่ ศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 เมื่อปี 1998 และเป็นเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2022 เหรียญที่ 8 ของทัพนักกีฬาไทย
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันอีเวนต์ต่อไปของทีมตะกร้อหนุ่มไทย จะลงชิงชัยในประเภททีมเดี่ยวชาย รอบแรก นัดแรก พบกับ อินเดีย ในวันพฤหัสบดี ที่ 5 ต.ค.นี้ 2566 เวลา 08.00 น. (ตามเวลาไทย)