จากการที่นักกีฬาทีมชาติไทยจะเข้าร่วมการแข่งขันในกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ณ เมืองหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 23 ก.ย.- 8 ต.ค.66 นั้นเพื่อเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมและสะท้อนมุมมองของประชาชนในมิติที่เกี่ยวกับความหวังและโอกาสที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จจากการเข้าร่วมการแข่งขัน KBU SPORT POLL โดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตจึงสำรวจคิดเห็นเรื่อง "ความหวังและโอกาสนักกีฬาไทยในหางโจวเกมส์

สำหรับการสำรวจดังกล่าวดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ระหว่างวันที่ 11-13 กันยายน 2566 โดยกลุ่มตัวอย่างเป็นประชาชนทั่วไปและผู้ที่สนใจข่าวสารทางการกีฬาซึ่งมีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 1,127  คน โดยแบ่งเป็นเพศชาย 706 คน คิดเป็นร้อยละ 62.64 เพศหญิง 421 คน คิดเป็นร้อยละ 37.36 ซึ่งผลการวิเคราะห์ในประเด็นต่างๆโดยภาพรวมพบว่า

ความสนใจที่จะติดตามการแข่งขัน กลุ่มอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 89.11 สนใจ รองลงมาร้อยละ 7.62 ยังไม่ตัดสินใจ และร้อยละ 3.27 ไม่สนใจ ส่วนความเชื่อมั่นที่มีต่อนักกีฬากับโอกาสในการคว้าเหรียญทองได้ตามเป้าหมายที่กำหนด 15 -20 เหรียญ ส่วนใหญ่ร้อยละ 34.87 เชื่อมั่น รองลงมาร้อยละ 24.63 ค่อนข้างเชื่อมั่น, ร้อยละ 19.35 ไม่ค่อยเชื่อมั่น, ร้อยละ 17.03 ไม่แน่ใจ และร้อยละ 4.12 ไม่เชื่อมั่น

ด้านชนิดกีฬาที่เป็นความหวังและมีโอกาสคว้าเหรียญทอง อันดับหนึ่ง ร้อยละ 78.1 กรีฑา, อันดับสอง ร้อยละ 75.0 เซปักตะกร้อ, อันดับสาม ร้อยละ 56.3 เทควันโด, อันดับสี่ ร้อยละ 50.0 มวยสากลสมัครเล่น, อันดับห้าร้อยละ 46.90 วอลเลย์บอลหญิง, อันดับหก ร้อยละ 43.8 แบดมินตัน, อันดับเจ็ด ร้อยละ 40.6 ยกน้ำหนัก, อันดับแปดร้อยละ 25.0 ยูยิตสู, อันดับเก้า ร้อยละ 12.5 เรือใบ, อันดับสิบ ร้อยละ 9.4 ยิงปืน และอื่นๆร้อยละ 5.5

ปัจจัยที่จะนำไปสู่ความสำเร็จของนักกีฬาทีมชาติไทย ส่วนใหญ่ ร้อยละ 31.22 มองเรื่องสมรรถนะและความสามารถของนักกีฬา รองลงมา ร้อยละ 28.83 ระยะเวลาในการฝึกซ้อมและเตรียมการ, ร้อยละ 21.09 สมรรถนะและความสามารถของทีมงานผู้ฝึกสอน, ร้อยละ 11.50 งบประมาณและการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง, ร้อยละ 5.07 ความยุติธรรมจากการตัดสิน และอื่นๆร้อยละ 2.29

ผศ.ดร.รัฐพงศ์ บุญญานุวัตร ผู้อำนวยการศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลการสำรวจดังกล่าวจะเห็นได้ว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ตื่นตัวและให้ความสนใจกับการติดการแข่งขัน ทั้งนี้อาจจะเป็นเพราะเอเชียนเกมส์เป็นมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของชาวเอเชียที่แฟนกีฬาอยากจะสัมผัสกับเกมและติดตามผลงานของนักกีฬาไทยก็ได้ ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาถึงเป้าหมายของจำนวนเหรียญทองตามที่กำหนดกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่น 

สำหรับชนิดกีฬาที่จะเป็นความหวังในการคว้าเหรียญทองพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ยกให้ กรีฑา, เซปักตะกร้อ และเทควันโด ตามลำดับ ซึ่งในประเด็นนี้อาจจะด้วยผลงานและความสามารถตลอดจนความแข็งแกร่งของนักกีฬาไทยจากการแข่งขันในรายการต่างๆที่ผ่านมาก็อาจจะเป็นได้ และที่น่าสนใจ หากเข้าไปดูในมิติของปัจจัยที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จของนักกีฬาไทยกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่าสมรรถนะและความสามารถของนักกีฬาผนวกกับระยะเวลาในการฝึกซ้อมและเตรียมการรวมทั้งศักยภาพของทีมงานผู้ฝึกสอนตลอดจนอื่นๆที่เกี่ยวข้องก็จะเป็นพลังเสริมที่จะนำมาซึ่งความสำเร็จได้

อย่างไรก็ตาม ก่อนการการแข่งขันจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการหากพิจารณาถึงการเตรียมการและความหวังที่มีต่อความสำเร็จของทัพนักกีฬาโดยภาพรวมพบว่าผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นการกีฬาแห่งประเทศไทยหรือสมาคมกีฬาต่างๆล้วนแล้วแต่หวังที่จะให้นักกีฬาไทยก้าวไปถึงเป้าหมายและเป็นเลิศในชนิดกีฬาสากลรวมทั้งครองความเป็นหนึ่งในอาเชียนได้เช่นเดิม